เฮ้อ พูดถึงเรื่อง โปรแกรม TOEIC นี่นะ มันก็วนๆ เวียนๆ อยู่ในหัวหลายคนเลยใช่ไหมล่ะ ตัวฉันเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นแหละ คือแบบ…มันจำเป็นต้องใช้ไง แต่จะเริ่มยังไงดีวะ โปรแกรมไหนมันจะเวิร์คจริง?
จุดเริ่มต้นความปวดหัวเรื่องโทอิคงของฉัน
เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนนั้นน่ะสิ ที่ทำงานเก่าฉันมันเกิดคึกอะไรขึ้นมาไม่รู้ ประกาศนโยบายใหม่เฉยเลย บอกว่าถ้าใครอยากจะขยับตำแหน่ง หรือได้ปรับเงินเดือนดีๆ เนี่ย ต้องมีผลคะแนน TOEIC ยื่นประกอบด้วย โอ๊ยยย ตอนนั้นคือมึนตึ้บเลย จากที่ไม่เคยคิดจะสอบอะไรจริงจัง ก็ต้องมานั่งหาข้อมูลกันให้วุ่นวายไปหมด

ตอนแรกก็เหมือนคนอื่นๆ นั่นแหละ เข้าเน็ตไปเสิร์ชหาเลย “โปรแกรม TOEIC อันไหนดี” “ติวโทอิคที่ไหนเด็ด” คือข้อมูลมันเยอะแยะเต็มไปหมดจนเลือกไม่ถูก มีทั้งแบบคอร์สเรียนแพงๆ หนังสือเป็นตั้งๆ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ ที่โฆษณากันว่าเทพนักเทพหนา
ลองผิดลองถูกกับสารพัดวิธี
ฉันก็ลองไปเรื่อยเปื่อยเลยนะช่วงนั้นน่ะ:
- ซื้อหนังสือมาอ่านเอง: กะว่าประหยัดดี อ่านเองน่าจะเข้าใจ สรุปคือซื้อมาดองจ้ะ เปิดไปได้ไม่กี่หน้าก็ง่วงแล้ว เนื้อหามันเยอะเกิ๊น ท้อใจ
- โหลดแอปพลิเคชัน: เห็นเค้ารีวิวกันว่าดีนักดีหนา มีเกมให้เล่น มีศัพท์ให้ท่อง โหลดมาเต็มเครื่องเลย ลองจิ้มๆ เล่นๆ ไปได้สักพัก…ก็เบื่ออีกแล้ว มันซ้ำๆ เดิมๆ ไม่เห็นจะได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
- ดูคลิปสอนฟรีตามยูทูบ: อันนี้ก็ดูไปเยอะนะ แต่ปัญหาคือมันกระจัดกระจาย ไม่เป็นระบบ ดูคลิปนี้ที คลิปนั้นที จับต้นชนปลายไม่ถูก สุดท้ายก็เหมือนเดิมคือ…ไม่ไปถึงไหน
เคยคิดจะไปลงคอร์สเรียนเหมือนกันนะ แต่พอเห็นราคาเท่านั้นแหละ…โอ้โห ลมแทบจับ เก็บตังค์ไว้กินข้าวยังจะดีซะกว่า ฮ่าๆๆ คือตอนนั้นมันรู้สึกท้อแท้จริงๆ นะ เหมือนหาทางออกไม่เจอ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ไอ้โปรแกรมที่เค้าว่าดี มันก็ไม่ได้เหมาะกับเราเสมอไปหรอก
แล้วฉันทำยังไงล่ะทีนี้? จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงนี้
หลังจากที่ลองผิดลองถูกมาสักพักจนเริ่มท้อ ฉันก็มานั่งคิดดูดีๆ ว่าจริงๆ แล้วหัวใจสำคัญของการเตรียมตัวสอบ TOEIC มันไม่ใช่โปรแกรมวิเศษอะไรจากไหนเลย แต่มันคือวินัยและความสม่ำเสมอของตัวเราเองล้วนๆ เลยว่ะ
ฉันเลยตัดสินใจเลิกตามหาโปรแกรมเทพๆ แล้วหันมาสร้าง “โปรแกรม” ของตัวเองขึ้นมา ง่ายๆ บ้านๆ นี่แหละ:
อย่างแรกเลยคือ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ว่าอยากได้คะแนนเท่าไหร่ แล้วก็กำหนดเวลาให้ตัวเองว่าจะต้องทำให้ได้ภายในกี่เดือน ไม่ใช่ปล่อยเบลอไปเรื่อยๆ
จากนั้นก็ไปหาซื้อข้อสอบเก่าๆ มาทำ ใช่แล้ว ข้อสอบเก่านี่แหละตัวดีเลย ฉันจะจับเวลาทำเหมือนสอบจริงทุกครั้ง ทั้งพาร์ทฟัง พาร์ทอ่าน ทำมันเข้าไปวันละชุด สองชุดก็ว่าไป ตอนแรกๆ นี่ผิดกระจายเลยนะ แดงเถือกไปทั้งหน้ากระดาษ แต่ก็ไม่ท้อ พยายามดูว่าผิดตรงไหน ทำไมถึงผิด
พวกแกรมมาร์หรือคำศัพท์ที่ไม่รู้เนี่ย ฉันก็จะจดโน้ตไว้ตัวโตๆ เลย แล้วก็หาเวลามานั่งทบทวนมันทุกวัน ท่องศัพท์ไปเรื่อยๆ เหมือนตอนเด็กๆ นั่นแหละ อาจจะดูน่าเบื่อนะ แต่มันได้ผลจริงๆ
ที่สำคัญอีกอย่างคือ ฉันพยายามสร้างสภาพแวดล้อมให้เป็นภาษาอังกฤษมากขึ้น ไม่ใช่แค่ตอนอ่านหนังสือเตรียมสอบ แต่หมายถึงในชีวิตประจำวันด้วย เช่น เปลี่ยนภาษาในมือถือเป็นภาษาอังกฤษ หาหนังฝรั่งซับอังกฤษมาดู ฟังเพลงสากล อ่านข่าวภาษาอังกฤษบ้าง คือพยายามให้หู ตา มันชินกับภาษาอังกฤษให้มากที่สุด

ฉันทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกวันนะ อาจจะมีขี้เกียจบ้าง ท้อบ้าง แต่ก็พยายามดึงตัวเองกลับมาให้ได้ มันไม่มีทางลัดหรอกเรื่องแบบนี้
ผลลัพธ์ที่ได้ กับสิ่งที่อยากจะบอก
ถามว่าคะแนนมันดีขึ้นไหม? แน่นอนสิ มันดีขึ้นจริงๆ อาจจะไม่ได้พุ่งพรวดแบบ রাতারাতি (ข้ามคืน) อะไรขนาดนั้น แต่มันก็เป็นคะแนนที่น่าพอใจสำหรับฉัน และที่สำคัญกว่าคะแนนคือ ฉันรู้สึกภูมิใจในตัวเอง ที่สามารถเอาชนะความขี้เกียจ ความท้อแท้ของตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องไปเสียเงินแพงๆ กับโปรแกรมอะไรเลย
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกทุกคนที่กำลังมองหา “โปรแกรม TOEIC” อยู่นะว่า จริงๆ แล้วโปรแกรมที่ดีที่สุดมันก็คือความมุ่งมั่นตั้งใจและวินัยของตัวคุณเองนั่นแหละ ลองหาแนวทางที่มันเหมาะกับตัวเอง แล้วก็ลงมือทำมันอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ ฉันเชื่อว่าทุกคนทำได้แน่นอน สู้ๆ!