ภาษาอังกฤษเป็นทักษะสำคัญในยุคโลกาภิวัตน์ และพื้นฐานที่มั่นคงเริ่มต้นที่การเข้าใจแกรมมาร์อย่างถูกต้อง คำถามที่หลายคนสงสัยคือ แกรมมาร์อังกฤษเบื้องต้นครอบคลุมอะไรบ้าง และจะแก้ไขจุดผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยได้อย่างไร
แก่นกลางของแกรมมาร์พื้นฐาน
แกรมมาร์อังกฤษระดับพื้นฐานประกอบด้วยองค์ประกอบหลักที่จำเป็นต่อการสื่อสารอย่างถูกต้องและชัดเจน:

- กาล (Tenses): การเข้าใจและการใช้กาลต่างๆ เช่น ปัจจุบันธรรมดา (Present Simple) สำหรับเรื่องจริงทั่วไปหรือกิจวัตร, อดีตธรรมดา (Past Simple) สำหรับเหตุการณ์ในอดีตที่สิ้นสุดแล้ว, และปัจจุบันสมบูรณ์ (Present Perfect) สำหรับประสบการณ์หรือเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงถึงปัจจุบัน เป็นรากฐานของการเล่าเรื่องและบอกเวลา
- ชนิดของคำ (Parts of Speech): ความรู้เกี่ยวกับบทบาทของคำแต่ละประเภทในประโยค เช่น คำนาม (Nouns), คำสรรพนาม (Pronouns), คำกริยา (Verbs), คำคุณศัพท์ (Adjectives), คำกริยาวิเศษณ์ (Adverbs), คำบุพบท (Prepositions), คำสันธาน (Conjunctions) และคำนำหน้านาม (Articles – a, an, the) ช่วยในการประกอบประโยคได้อย่างแม่นยำ
- โครงสร้างประโยค (Sentence Structure): การเรียงลำดับคำแบบ ประธาน-กริยา-กรรม (Subject-Verb-Object หรือ SVO) ซึ่งเป็นโครงสร้างมาตรฐานของภาษาอังกฤษ การสร้างประโยคคำถาม (ด้วยคำถาม助กริยาหรือ Wh- words) และประโยคปฏิเสธ
- Subject-Verb Agreement: กฎการผันรูปกริยาให้สอดคล้องกับประธานในเรื่องของ บุรุษ (Person – I, you, he/she/it, we, they) และพจน์ (Number – เอกพจน์/พหูพจน์) ซึ่งเป็นจุดที่มักเกิดข้อผิดพลาด
จุดผิดพลาดยอดนิยมและวิธีแก้ไข
ผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง โดยเฉพาะผู้ใช้ภาษาไทย มักพบกับอุปสรรคทางแกรมมาร์ในจุดเดียวกันบางประการ:
- การละ “s” หรือ “es” ใน Present Simple (กาลปัจจุบันธรรมดา): เมื่อประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 (He, She, It, A dog, The book) ต้องเติม s หรือ es ที่ท้ายคำกริยาหลัก เช่น “He works hard.”, “She goes to school.” การไม่เติมถือเป็นหนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุด วิธีแก้ไขคือฝึกฝนการสังเกตประธานและจดจำกฎนี้ให้ขึ้นใจ
- การใช้คำนำหน้านาม (a, an, the) ผิด: ความสับสนระหว่าง a/an (ใช้กับคำนามนับได้เอกพจน์ที่ไม่เจาะจง) กับ the (ใช้กับคำนามที่ถูกระบุหรือกล่าวถึงแล้ว หรือมีเพียงหนึ่งเดียว) และการลืมใช้กับคำนามนับได้เอกพจน์ เช่น บางคนอาจพูดว่า “I have book.” แทน “I have a book.” การฝึกอ่านเยอะๆ จะช่วยให้เข้าใจบริบทการใช้งานได้ชัดเจนขึ้น
- การสับสนระหว่าง Prepositions (คำบุพบท): เช่น ใช้ “on” แทน “in” (ในวัน vs ในเดือน/ปี), สับสน “at”, “in”, “on” สำหรับสถานที่และเวลา หรือ “to” และ “for” เพื่อแสดงจุดประสงค์ คำบุพบทมักต้องเรียนรู้ผ่านตัวอย่างและการใช้งานจริงมากกว่าจดจำกฎเพียงอย่างเดียว
- การจัดลำดับคำคุณศัพท์ผิด (Adjective Order): เมื่อมีคำคุณศัพท์หลายตัวขยายนามตัวเดียวกัน การเรียงลำดับมักเป็น: ความคิดเห็น – ขนาด – อายุ – รูปร่าง – สี – ที่มา – วัสดุ – จุดประสงค์ + คำนาม เช่น “a beautiful small old round brown Thai wooden dining table” แม้ประโยคนี้ดูซับซ้อน แต่แสดงให้เห็นลำดับมาตรฐานที่ควรรู้เบื้องต้น (ขนาด: size, อายุ: age, รูปร่าง: shape, สี: color) การฝึกจัดกลุ่มคำคุณศัพท์ไม่เกิน 2-3 คำก่อนเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
- การใช้ Gerunds (-ing) และ Infinitives (to + verb) หลังคำกริยาบางตัว: คำกริยาบางคำต้องการกริยาตามที่เป็น Gerund (*) เช่น “enjoy”, “avoid”, “finish” (I enjoy reading) บางคำต้องการ Infinitive (to + V1) เช่น “want”, “decide”, “need” (She wants to go) และบางคำสามารถตามด้วยทั้งสองแบบแต่ความหมายต่างกัน (เช่น “stop”) จำเป็นต้องท่องจำหรือเรียนรู้ผ่านคู่มือที่รวบรวมไว้
ความสำคัญของการปูพื้นฐานและฝึกฝน
การเข้าใจแกรมมาร์อังกฤษเบื้องต้นไม่ใช่แค่การท่องจำกฎ แต่เป็นการสร้างกรอบความคิดในการใช้ภาษา แม้การสื่อสารจะเน้นความเข้าใจมากกว่าความถูกต้องสมบูรณ์แบบเสมอ การมีพื้นฐานแกรมมาร์ที่ดีจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ความชัดเจน และความน่าเชื่อถือ ในการสื่อสารทั้งการพูดและการเขียน การแก้ไขจุดผิดพลาดที่พบบ่อยต้องอาศัยการตระหนักรู้ในปัญหา การฝึกใช้งานในบริบทที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ และการไม่กลัวที่จะเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
การเริ่มต้นจากหัวใจสำคัญของแกรมมาร์และเน้นย้ำการแก้ไขจุดอ่อนที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้แข็งแกร่งและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ