การสอบ MCAT คืออะไร
MCAT หรือ The Medical College Admission Test คือ ข้อสอบคัดเลือกสำหรับบุคคลที่ต้องการศึกษาต่อทางด้านแพทย์ของสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และแคนนาดา โดยข้อสอบจะเป็นการสอบกับคอมพิวเตอร์ โดยมีสมาคมวิทยาลัยการแพทย์อเมริกัน ( Association of American Medical Colleges หรือ AAMC ) เป็นผู้ดูแลจัดการสอบ
Table of Contents
โครงสร้างข้อสอบ MCAT (MCAT Exam Structure)
ข้อสอบ MCAT จะเป็นแบบปรนัยทั้งหมด มีข้อสอบ 230 ข้อ เวลาสอบ 6 ชั่วโมง 15 นาที แบ่งออกเป็น 4 Parts คือ
1. Biological and Biochemical Foundations of Living Systems (BBLS)
(พื้นฐานชีววิทยาและชีวเคมีของระบบสิ่งมีชีวิต) จำนวนข้อสอบทั้งหมด 59 ข้อ เวลาในการข้อสอบ 95 นาที คะแนนเต็ม 132 คะแนน
ข้อสอบจะออกเป็น Passages 10 เรื่อง เรื่องละ 4-6 ข้อ และคำถามนอกเหนืออีก 15 ข้อ ข้อสอบออกเรื่อง ชีววิทยา ชีวเคมี เคมีทั่วไป เคมีอินทรีย์ระดับป.ตรี (ปี1-2)
สถิติข้อสอบ
ชีววิทยา 65%
ชีวเคมี 25%
เคมีเบื้องต้น 5%
เคมีอินทรีย์ 5%
Click HereClick HereClick Here
2. Chemical and Physical Foundations of Biological Systems (CPBS)
(พื้นฐานเคมีและฟิสิกส์ของระบบสิ่งมีชีวิต) จำนวนข้อสอบทั้งหมด 59 ข้อ เวลาในการข้อสอบ 95 นาที คะแนนเต็ม 132 คะแนน
ข้อสอบจะออกเป็น Passages 10 เรื่อง เรื่องละ 4-6 ข้อ คำถามต่างหากอีก15ข้อ) ข้อสอบออกเรื่อง ชีววิทยา, ชีวเคมี, เคมีทั่วไป, เคมีอินทรีย์, เคมีอนินทรีย์ , ตารางธาตุ ,ฟิสิกส์ระดับมหาลัยปี1-2
สถิติข้อสอบ
เคมีทั้วไป 30%
ฟิสิกส์เบื้องต้น 25%
ชีววิทยา 25%
เคมีอินทรีย์ 15%
ชีววิทยาเบื้องต้น 5%
Click HereClick HereClick HereClick Here
3. Psychological, Social, and Biological Foundations of Behavior (PSBB)
(พื้นฐานทางจิตวิทยา สังคมวิทยา และชีววิทยาของพฤติกรรม) จำนวนข้อสอบทั้งหมด 59 ข้อ เวลาในการข้อสอบ 95 นาที คะแนนเต็ม 132 คะแนน
ข้อสอบจะออกเป็น Passages 10 เรื่อง เรื่องละ 4-6 ข้อ คำถามนอกเหนือ 15 ข้อ ข้อสอบออกเรื่อง ความรู้จิตวิทยา สังคมวิทยา และชีววิทยา ระดับป.ตรี(ปี1-2)
สถิติข้อสอบ
จิตวิทยาเบื้องต้น 65%
สังคมวิทยาเบื้องต้น 30%
ชีววิทยาเบื้องต้น 5%
Click HereClick HereClick Here
4. Critical Analysis and Reasoning Skills (CARS)
(ทักษะการวิเคราะห์และการให้เหตุผล) จำนวนข้อสอบทั้งหมด 53 ข้อ เวลาในการข้อสอบ 90 นาที คะแนนเต็ม 132 คะแนน
ข้อสอบจะออกเป็น Passages 9 เรื่อง (คำถามเรื่องละ5-7ข้อ) โดยพาร์ทนี้จะวัดทักษะการอ่านและคิดวิเคราะห์ มี passages 9 เรื่อง (คำถามเรื่องละ5-7ข้อ)
สถิติข้อสอบ
การใช้เหตุผลนอกเหนือจากข้อความที่กำหนด 40%
การใช้เหตุผลภายในข้อความที่กำหนด 30%
การทำความเข้าใจเบื้องต้น 30%
Click HereClick HereClick HereClick Here
สถิติข้อสอบ MCAT ออกเรื่องอะไรบ้าง แล้วออกเรื่องละกี่เปอร์เซ็นต์
Verbal Reasoning 22.1%
Biology 18.8%
Biochemistry 17%
Psychology 16%
General Chemistry 8%
Sociology 7%
Physics 6%
Organic Chemistry 5%
คะแนนสอบ MCAT
MCAT มีคะแนนเต็มอยู่ที่ 528 คะแนน
โดยแต่ละ part จะมีคะแนนต่ำสุดที่ 118 คะแนน และสูงสุดที่ 132 คะแนน คะแนนรวมทั้ง 4 part จะอยู่ที่ 528 คะแนน
คะแนน MCAT เก็บได้กี่ปี ?
คะแนนสอบ MCAT สามารถเก็บไว้ใช้ยื่นสมัครเรียนได้ถึง 3 ปี
คะแนน MCAT ใช้มหาวิทยาลัย ไหนได้บ้าง ?
- คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต ภาคบัณฑิต (หลักสูตรนานาชาติ)
- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โครงการผู้มีความสามารถพิเศษทางวิชาการและภาษาอังกฤษทั่วประเทศ (MDX)
- ทันตะ มหิดลอินเตอร์ (MIDS)
- แพทย์ ม.เชียงใหม่ (CMU)
- แพทย์ ม.เกษตรศาสตร์ (KUMED02 โครงการช้างเผือก)
- แพทย์ รังสิต รอบยื่น Portfolio (RSU)
ประกาศคะแนนสอบ MCAT
คะแนนสอบ MCAT จะออกหลังสอบเสร็จประมาณ 30-35 วัน
สามารถเข้าดูคะแนนได้ที่ https://students-residents.aamc.org/taking-mcat-exam/taking-mcat-exam
สมัครสอบ MCAT
สำหรับผู้สนใจสมัครสอบ สามารถสมัครสอบได้ที่ https://apps.aamc.org/mrs/
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการสอบ MCAT
สมัครสอบได้สูงสุดปีละ 3 ครั้ง
ตลอดชีพ MCAT สอบได้ไม่เกิน 7 ครั้ง
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.
ค่าสอบ MCAT
ค่าสอบอยู่ที่ประมาณ 12,000 บาท
สถานที่สอบ MCAT
จัดสอบที่ Person Professional Center (สุขุมวิท 21) อาคาร BB Building ชั้น 10
เปรียบเทียบ ข้อสอบ BMAT MCAT UCAT
| MCAT | BMAT | UCAT |
|
– |
Problem Solving (16 คำถาม) |
Quantitative Reasoning (36 คำถาม) |
|
Abstract Reasoning (50 คำถาม) |
||
|
Critical Analysis and Reasoning Skills (53 คำถาม) |
Critical Thinking (16 คำถาม) |
Verbal Reasoning (44 คำถาม) |
|
Biological and Biochemical Foundations of Living Systems (59 คำถาม) |
Biology (7 คำถาม) |
|
|
Chemical and Physical Foundations of Biological Systems (59 คำถาม) |
Chemistry (7 คำถาม) |
– |
|
Physics (7 คำถาม) |
– | |
|
– |
Maths (6 คำถาม) |
– |
|
Psychological , Social and Biological Foundations of Behavior 59 คำถาม)
|
Writing (1 Essay)
|
Decision Making (29 คำถาม) |
|
Situational Judgement (66 คำถาม) |
ตารางสอบ MCAT
มีสอบปีละหลายครั้งในช่วงเดือน มกราคม – กันยายน ของทุกปี
ตารางสอบ MCAT 2024
16 พฤษภาคม 2024
24 พฤษภาคม 2024
14 มิถุนายน 2024
15 มิถุนายน 2024
22 มิถุนายน 2024
27 มิถุนายน 2024
13 กรกฎาคม 2024
26 กรกฎาคม 2024
2 สิงหาคม 2024
17 สิงหาคม 2024
23 สิงหาคม 2024
24 สิงหาคม 2024
5 กันยายน 2024
6 กันยายน 2024
13 กันยายน 2024
14 กันยายน 2024
คะแนน MCAT ที่ดีสำหรับการสมัครเข้าแพทย์
MCAT ยื่นสมัคร MED/DENT CMU , KKU , KU , MIDS , RSU
UCAT ยื่นสมัคร MED/DENT CICM , MIDS , RSU
TBAT ยื่นสมัคร MED/DENT CU , MED KU , TU , MIDS
CU-AAT ยื่นสมัคร MED/DENT CU , MED KU
AKAT ยื่นสมัคร MED/DENT SWU-NOTT
แชร์ ประสบการณ์จริงจากติวเตอร์ ที่ไปตามแนวสอบ MCAT
การสอบ MCAT เป็นหนึ่งในด่านสำคัญของน้องๆที่ต้องการศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์ วันนี้พี่ติวเตอร์ที่มีประสบการณ์หลายปีในการช่วยนักเรียนเตรียมสอบ MCAT ได้แชร์ประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการตามแนวสอบ MCAT เพื่อให้เข้าใจโครงสร้างข้อสอบและพัฒนาเทคนิคการทำคะแนนให้สูงที่สุด
ข้อสอบ MCAT ไม่ได้แค่แค่ความรู้ แต่เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์
สิ่งแรกที่ติวเตอร์พบจากการศึกษาข้อสอบ MCAT คือ MCAT ไม่ได้ทดสอบแค่ความรู้วิทยาศาสตร์พื้นฐาน อย่างชีววิทยา เคมี หรือฟิสิกส์เท่านั้น แต่มันเป็นข้อสอบที่ออกแบบมาเพื่อวัด ทักษะการคิดวิเคราะห์ และ การแก้ปัญหาเชิงตรรกะ
“การรู้เนื้อหาเป็นเพียงพื้นฐาน แต่ถ้าอยากได้คะแนนสูง ต้องฝึกคิดวิเคราะห์ และฝึกทำข้อสอบแนว MCAT ให้มากที่สุด”
การสอบนี้จึงแตกต่างจากการสอบทั่วไป เช่น SAT หรือ ACT เพราะเน้นไปที่การวิเคราะห์ข้อมูลจากบทความเชิงวิทยาศาสตร์ รวมถึงการนำความรู้ที่เรียนมาใช้กับสถานการณ์ใหม่ๆ
เคล็ดลับ เพิ่มคะแนนสอบ MCAT ในแต่ละพาร์ท
1. Biological and Biochemical Foundations of Living Systems (BBLS)
- เน้นชีววิทยาและชีวเคมี เช่น กระบวนการเมตาบอลิซึม โครงสร้างเซลล์ และระบบร่างกาย
- มีการนำเสนอกราฟ ตาราง และรูปภาพ ซึ่งต้องวิเคราะห์ข้อมูลให้เป็น
- เคล็ดลับ: ฝึกทำข้อสอบที่เป็นแนวการทดลอง เพื่อให้ชินกับการตีความข้อมูล
2. Chemical and Physical Foundations of Biological Systems (CPBS)
- รวมเนื้อหาเคมีทั่วไป เคมีอินทรีย์ และฟิสิกส์ที่เกี่ยวข้องกับร่างกายมนุษย์
- ต้องเข้าใจหลักการพื้นฐาน เช่น กฎของก๊าซ สมดุลเคมี และกลศาสตร์ของของไหล
- เคล็ดลับ: ควรฝึกทำโจทย์เชิงคำนวณ และทำความเข้าใจแนวคิดมากกว่าท่องจำสูตร
3. Psychological, Social, and Biological Foundations of Behavior (PSBB)
- ข้อสอบส่วนนี้วัดความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ สังคม และจิตวิทยา
- จำเป็นต้องรู้แนวคิดทางจิตวิทยาและสังคมวิทยา เช่น ทฤษฎีการเรียนรู้ พฤติกรรมมนุษย์ และปัจจัยทางสังคมที่มีผลต่อสุขภาพ
- เคล็ดลับ: ควรทำ Flashcards เพื่อทบทวนแนวคิดสำคัญ และฝึกทำข้อสอบแนว Clinical Application
4. Critical Analysis and Reasoning Skills (CARS)
- ส่วนนี้คล้ายกับการสอบอ่านเชิงวิเคราะห์ (Critical Reading)
- บทความที่ใช้เป็นแนวเชิงปรัชญา วรรณกรรม และวิทยาศาสตร์สังคม
- เคล็ดลับ: อ่านบทความวิชาการและฝึกจับใจความสำคัญ พร้อมฝึกทำข้อสอบทุกวัน
เทคนิคการเตรียมสอบ MCAT จากติวเตอร์
จากประสบการณ์สอน MCAT ของติวเตอร์ได้รวบรวมเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้น้องสามารถเพิ่มคะแนนสอบได้ ด้วยมีวิธีดังนี้
- เริ่มต้นวางแผนการเรียนอย่างน้อย 3-6 เดือน
- การเรียน MCAT ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจแนวข้อสอบ และพัฒนาทักษะวิเคราะห์
- ควรมีตารางเรียนที่แบ่งเวลาให้ครบทุกพาร์ท
- อ่านหนังสือ หรือ แหล่งข้อสอบสำหรับเตรียมสอบ MCAT ที่เก็งข้อสอบตรง
- แนะนำให้ใช้ Kaplan, Princeton Review, UWorld และ Khan Academy
- อ่านหนังสือ MCAT Official Guide และฝึกทำข้อสอบจริงจาก AAMC
- ฝึกทำ Full-Length Practice Tests
- การทำข้อสอบจริงช่วยให้ชินกับเวลาและลดความเครียดในวันสอบ
- วิเคราะห์ข้อผิดพลาดของตนเองหลังจากทำข้อสอบแต่ละครั้ง
- เรียนรู้วิธีจัดการเวลาในวันสอบ
- ข้อสอบ MCAT ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 30 นาที ดังนั้นต้องฝึกการทำข้อสอบแบบจับเวลา
- แบ่งเวลาทำข้อสอบแต่ละพาร์ทให้เหมาะสม และใช้เทคนิค Eliminating Wrong Answers
สรุป: สิ่งที่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตามแนวสอบ MCAT
จากประสบการณ์ของติวเตอร์ การสอบ MCAT ไม่ใช่เรื่องของความจำเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการทดสอบ ทักษะการคิดวิเคราะห์ ซึ่งต้องใช้เวลาและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
🔹 เนื้อหาข้อสอบมีความซับซ้อน และต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจเชิงลึกมากกว่าการท่องจำ 🔹 การฝึกทำข้อสอบจริงเป็นกุญแจสำคัญ เพราะช่วยให้น้องเข้าใจรูปแบบคำถามและการจัดการเวลา🔹 สุขภาพและจิตใจที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการสอบนี้ใช้เวลานานและอาจทำให้น้องเกิดความเครียดได้ง่าย
หากน้องกำลังเตรียมสอบ MCAT พี่ขอให้น้องเชื่อมั่นในตัวเองและพยายามฝึกทำข้อสอบเก่า แล้วน้องจะสามารถทำคะแนนได้ดีแน่นอน
คอร์สเรียน ติวตัวต่อตัว MCAT
See also
– สรุปทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ ข้อสอบ TBAT
– UCAT คืออะไร ทำไมต้องสอบ
– MMI คืออะไร คำถาม กิจกรรม สัมภาษณ์ MMI
