เอาล่ะ วันนี้จะมาเล่าเรื่องสอบ GMAT ของตัวเองล้วนๆ เลยนะ คือมันเป็นประสบการณ์ที่ทั้งเหนื่อยทั้งลุ้น แต่ก็คุ้มค่ามากๆ ใครกำลังจะสอบหรือคิดจะสอบ ลองมาฟังดูเผื่อเป็นแนวทางได้
จุดเริ่มต้นของการตัดสินใจสอบ GMAT
เรื่องของเรื่องคือเริ่มรู้สึกว่าอยากจะอัปเกรดตัวเอง อยากเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ (MBA) ซึ่งไอ้เจ้า GMAT เนี่ยมันเป็นเหมือนประตูด่านแรกเลยที่ต้องผ่านไปให้ได้ ตอนแรกก็ไม่ได้รู้อะไรมากหรอกนะ รู้แค่ว่ามันยาก ต้องเตรียมตัวเยอะ ก็เลยเริ่มจากศูนย์เลยจริงๆ

เริ่มศึกษาและวางแผน
ขั้นตอนแรกสุดที่ทำเลยคือการทำความเข้าใจตัวข้อสอบ GMAT มันมีอะไรบ้าง? พอไปค้นๆ ดูก็แบบ โอ้โห…มีทั้งส่วน Quantitative (คณิตศาสตร์), Verbal (ภาษาอังกฤษวัดความเข้าใจและการใช้เหตุผล), Integrated Reasoning (การวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง) แล้วก็ Analytical Writing Assessment (การเขียนวิเคราะห์) คือเห็นแล้วท้อไปครึ่งนึงเลย ฮ่าๆ
พอรู้ว่าต้องเจออะไรบ้าง ก็เริ่มหาข้อมูลหนังสือ หลักสูตรติวต่างๆ ตอนนั้นคิดว่าลองด้วยตัวเองดูก่อน เลยไปสั่งซื้อหนังสือ Official Guide (OG) มาเป็นเล่มหลักเลย แล้วก็หาพวกเทคนิคจากในเน็ต จากคนที่เคยสอบผ่านไปแล้วมาอ่านประกอบ
สิ่งที่ทำต่อมาคือการประเมินตัวเอง ลองทำข้อสอบเก่าๆ ดูชุดนึง ผลออกมาคือ…เละ! คะแนนต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก โดยเฉพาะส่วนคณิตศาสตร์นี่คือคืนครูไปหมดแล้ว ส่วน Verbal ก็พอถูไถ แต่ก็ยังห่างไกลจากเป้าหมายเยอะ
ลงมือปฏิบัติจริงจัง: ช่วงเวลาแห่งการฝึกฝน
หลังจากรู้จุดอ่อนตัวเองแล้ว ก็ถึงเวลาลงสนามจริงจัง ผมเริ่มจาก:
- ปูพื้นฐานคณิตศาสตร์ใหม่หมด: ไปรื้อหนังสือเลข ม.ปลาย มานั่งทบทวนสูตรต่างๆ ทำโจทย์พื้นฐานให้คล่องก่อนเลย แรกๆ ก็ฝืดมาก จำอะไรไม่ค่อยได้ แต่ก็พยายามทำซ้ำๆ จนเริ่มเข้าที่
- ตะลุยโจทย์ Verbal: ส่วนนี้ผมเน้นทำความเข้าใจ Reading Comprehension เยอะมาก เพราะมันยาวและต้องจับใจความให้ได้ ส่วน Sentence Correction ก็ต้องฝึกดูแกรมม่า โครงสร้างประโยค Critical Reasoning นี่ก็ต้องฝึกคิดแบบมีตรรกะมากๆ
- จัดตารางอ่านหนังสือ: อันนี้สำคัญมาก ผมพยายามแบ่งเวลาให้ชัดเจน วันไหนทำส่วนไหน กี่ชั่วโมง พยายามทำให้ได้ตามตารางทุกวัน ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ต้องมีวินัย
- ทำ Mock Test สม่ำเสมอ: ทุกๆ สัปดาห์ หรือสองสัปดาห์ ผมจะจับเวลาทำข้อสอบเสมือนจริง (Mock Test) หนึ่งชุดเต็มๆ เพื่อดูพัฒนาการของตัวเอง แล้วก็เอาข้อที่ผิดมาวิเคราะห์อย่างละเอียดว่าพลาดตรงไหน ทำไมถึงพลาด จดเป็น Error Log ไว้เลย
- ดูแลสุขภาพ: ช่วงเตรียมตัวสอบหนักๆ นี่ร่างกายกับสมองล้ามาก พยายามนอนให้พอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายบ้างเล็กน้อย มันช่วยได้เยอะจริงๆ นะ
จำได้เลยว่ามีช่วงนึงที่ท้อมาก ทำคะแนน Mock Test ไม่ขึ้นเลย รู้สึกเหมือนอ่านไปก็เท่านั้น แต่ก็พยายามฮึดสู้ บอกตัวเองว่ามาไกลขนาดนี้แล้วจะยอมแพ้ง่ายๆ ได้ไง ก็พักไปวันนึงแล้วกลับมาลุยต่อ
วันสอบจริงและผลลัพธ์
พอถึงวันสอบจริงนี่ตื่นเต้นสุดๆ ไปถึงศูนย์สอบก่อนเวลาเยอะมาก พยายามทำสมาธิ ทบทวนสูตรเล็กๆ น้อยๆ ในหัว บรรยากาศในห้องสอบก็เงียบกริบ มีสมาธิดี ตอนทำข้อสอบก็พยายามบริหารเวลาให้ดี ข้อไหนทำไม่ได้จริงๆ ก็ต้องตัดใจข้ามไปบ้าง ไม่งั้นจะไปเสียเวลากับข้ออื่น
สอบเสร็จออกมานี่โล่งแบบบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก ตอนรอผลคะแนนก็ลุ้นตัวโก่ง พอผลออกมา…ก็ถือว่าพอใจในระดับหนึ่งนะ อาจจะไม่ได้สูงปรี๊ดเหมือนที่ฝันไว้ตอนแรก แต่ก็เป็นคะแนนที่สามารถเอาไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัยที่ตั้งใจไว้ได้
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสอบ GMAT
การสอบ GMAT ครั้งนี้ให้อะไรผมมากกว่าแค่คะแนนสอบเยอะเลย มันสอนให้ผมรู้จักการวางแผน การมีวินัยในตัวเอง ความอดทน การรับมือกับความล้มเหลวและความกดดัน และที่สำคัญคือมันทำให้ผมเห็นว่าถ้าเราตั้งใจจริง ไม่ว่าอะไรก็เป็นไปได้
ใครที่กำลังจะสอบ GMAT หรือกำลังท้ออยู่ อยากจะบอกว่าสู้ๆ นะครับ มันอาจจะดูยาก แต่ถ้าเราเตรียมตัวดี มีวินัย และไม่ยอมแพ้ ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้แน่นอนครับ!
