สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ที่ได้ลองงมๆ ทำอะไรบางอย่างดู นั่นก็คือเรื่อง “สงวน gre” นี่แหละครับ คือจริงๆ มันก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากสำหรับคนที่เค้าเชี่ยวชาญหรอกนะ แต่สำหรับผมที่แบบบ้านๆ ลองผิดลองถูกไปเรื่อย ก็ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน
เริ่มจากความอยากรู้ล้วนๆ
คือเรื่องของเรื่องเนี่ย ผมดันไปอ่านเจอเกี่ยวกับเทคโนโลยีตัวนึงที่เรียกว่า GRE Tunnel อะไรประมาณนั้นแหละครับ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจหรอกว่ามันคืออะไร เอาไว้ทำอะไรได้บ้าง แต่พออ่านไปอ่านมา เออ มันน่าสนใจดีแฮะ เหมือนเป็นการสร้างอุโมงค์ส่วนตัวเชื่อมระหว่างเครือข่ายสองที่เข้าด้วยกัน ผมก็เลยคิดในใจว่า “ถ้าเราทำได้นี่มันจะเจ๋งขนาดไหนนะ”

หลักๆ ที่ผมอยากจะ “สงวน” หรือทำให้มันใช้งานได้จริงจังเนี่ย ก็เพราะว่าผมมีอุปกรณ์เน็ตเวิร์คอยู่ที่บ้านสองหลัง แล้วอยากจะให้มันคุยกันได้สะดวกๆ เหมือนอยู่ในวงแลนเดียวกันไปเลย ไม่ต้องมานั่งตั้งค่าอะไรวุ่นวายหลายต่อเวลาจะแชร์ไฟล์หรือเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ
ลงมือปฏิบัติจริง (แบบงูๆ ปลาๆ)
ทีนี้ก็ถึงขั้นตอนลงมือทำจริงแล้วครับ ผมก็เริ่มจาก:
- หาข้อมูลก่อนเลย: อ่านวิธีทำจากหลายๆ ที่ ทั้งไทยทั้งเทศ ดูว่าเค้าตั้งค่ากันยังไง ต้องมีอะไรบ้าง หลักๆ ก็คือต้องมี Router สองตัวที่รองรับ GRE แล้วก็ต้องรู้ Public IP ของแต่ละฝั่ง
- เตรียมอุปกรณ์: ผมมี Router อยู่แล้วสองตัวที่พอจะทำได้ ก็เลยเอามาลองเลยครับ ตัวนึงเป็นตัวหลักที่บ้าน อีกตัวเอาไปตั้งไว้อีกที่นึง (สมมติว่าเป็นบ้านอีกหลังแล้วกันนะ)
- เริ่มตั้งค่า: อันนี้แหละครับที่เริ่มจะปวดหัวนิดหน่อย เพราะหน้าตาเมนูของ Router แต่ละยี่ห้อมันก็ไม่เหมือนกัน ผมก็ต้องค่อยๆ ไล่หาเมนูที่เกี่ยวกับ Tunnel หรือ GRE โดยเฉพาะ
- ฝั่งแรก (สมมติเป็น Site A) ก็ใส่ IP ปลายทางของ Site B แล้วก็กำหนด IP ของตัว Tunnel เอง
- ฝั่งที่สอง (Site B) ก็ทำคล้ายๆ กัน ใส่ IP ปลายทางของ Site A แล้วก็กำหนด IP ของ Tunnel
- การ Routing: อันนี้สำคัญเลย ตอนแรกผมก็งงๆ ว่าทำไมมันเชื่อมกันไม่ได้วะ ปรากฏว่าลืมเรื่องการบอก Router ว่าถ้าจะไปเครือข่ายอีกฝั่งนึง ต้องวิ่งผ่านอุโมงค์ GRE ที่เราสร้างไว้นะ ก็ต้องไปเพิ่ม Static Route เข้าไปอีกหน่อย
ผลลัพธ์ที่ได้ กับการ “สงวน” ให้มันใช้งานได้จริง
หลังจากงมอยู่พักใหญ่ ลองผิดลองถูกไปหลายรอบ ในที่สุดมันก็สำเร็จครับ! ผมสามารถ ping หากันได้จากทั้งสองฝั่ง สามารถเข้าถึงไฟล์ที่แชร์ไว้ได้เหมือนอยู่บ้านเดียวกันเลย ความรู้สึกตอนนั้นคือแบบ โคตรดีใจอะ! เหมือนแก้โจทย์คณิตยากๆ ได้สำเร็จ
ส่วนเรื่อง “สงวน” เนี่ย ผมมองว่ามันคือการที่เราพยายามทำให้สิ่งที่เราตั้งค่าขึ้นมามันใช้งานได้จริงๆ มีเสถียรภาพ ไม่ใช่แค่ทำเล่นๆ แล้วก็เลิกไป ผมก็ต้องคอยเช็คดูบ้างว่ามันยังเชื่อมต่อกันดีอยู่ไหม มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ถ้าเกิด IP ที่บ้านเปลี่ยน (เพราะส่วนใหญ่เราใช้ Dynamic IP กันเนอะ) ก็อาจจะต้องมีวิธีอัปเดต IP ปลายทางกันหน่อย ซึ่งก็มีวิธีทำได้หลายแบบ
สรุปคือ การได้ลองทำอะไรแบบนี้ด้วยตัวเองมันสนุกดีครับ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอะไร แต่การได้เรียนรู้และแก้ปัญหาไปทีละขั้นมันทำให้เราเข้าใจมากขึ้นเยอะเลย ใครที่สนใจเรื่องพวกนี้ก็ลองหาข้อมูลแล้วลงมือทำดูนะครับ ไม่ยากเกินความพยายามแน่นอน วันนี้ก็ขอจบการแชร์ประสบการณ์ “สงวน gre” ของผมไว้เท่านี้ก่อนนะครับ สวัสดีครับ!