สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยกับการไปลุยสนามสอบ GRE มา คือจะว่าไปแล้วเนี่ย ตอนแรกที่ตัดสินใจว่าจะสอบ ก็แอบคิดในใจนะ ว่ามันจะโหดขนาดไหนกันเชียววะ จะรอดไหมเนี่ย แต่พอเอาเข้าจริง มันก็มีอะไรให้เราได้เรียนรู้เยอะเลยครับ
จุดเริ่มต้นของการผจญภัย
เรื่องของเรื่องก็คือ เรามีความฝันอยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศไงล่ะครับ แล้วไอ้เจ้า GRE เนี่ย มันก็เป็นด่านสำคัญด่านหนึ่งที่ต้องผ่านไปให้ได้ ตอนแรกก็งงๆ นะ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ก็เลยเริ่มจากการหาข้อมูลก่อนเลยครับ ว่ามันคืออะไร สอบอะไรบ้าง มีกี่พาร์ท ยากง่ายยังไง

พอรู้คร่าวๆ แล้วว่ามีทั้งพาร์ท Verbal ที่เน้นศัพท์โหดๆ พาร์ท Quant ที่เป็นเลข แล้วก็พาร์ท Analytical Writing ที่ต้องเขียนเรียงความอีกสองฉบับ ก็ถึงกับกุมขมับเลยทีเดียว คิดในใจว่างานช้างแล้วล่ะตู
ลงสนามซ้อมจริงจัง
หลังจากตั้งสติได้ ก็เริ่มลุยเลยครับ ขั้นตอนแรกคือการหาทรัพยากรในการอ่าน
- หนังสือ: โอ้โห…อันนี้บอกเลยว่าซื้อมาเยอะมากครับ ทั้งของ Official Guide ที่เขาว่ากันว่าต้องมี แล้วก็หนังสือเสริมของสำนักต่างๆ พวก Kaplan, Princeton Review, Manhattan Prep กองเต็มโต๊ะไปหมด อ่านกันตาแฉะไปข้าง
- คอร์สออนไลน์/เว็บไซต์: สมัยนี้มันดีอย่าง มีคอร์สออนไลน์ให้เลือกเยอะแยะไปหมด เราก็ไปลองดูของ Magoosh บ้าง GregMat บ้าง อันไหนที่เขาว่าดีก็ลองไปส่องๆ ดูครับ ช่วยได้เยอะเหมือนกันนะ โดยเฉพาะเทคนิคการทำข้อสอบ
- ทำโจทย์: อันนี้สำคัญสุดๆ เลยครับ ทำโจทย์เยอะๆ เท่านั้นที่จะช่วยเราได้ แรกๆ ก็ผิดกระจายครับ แดงเถือกไปทั้งหน้ากระดาษ แต่ก็ต้องทนทำไปเรื่อยๆ ครับ
ช่วงเตรียมตัวนี่บอกเลยว่าหนักหนาสาหัสเอาการอยู่ครับ ต้องตื่นเช้ามาท่องศัพท์ คือศัพท์ GRE นี่มันแบบ…ศัพท์อะไรก็ไม่รู้ เยอะแยะไปหมด ท่องวันนี้พรุ่งนี้ลืม เป็นเรื่องปกติมากครับ ต้องอาศัยความถึก ท่องซ้ำๆ วนไป ท่องเสร็จก็มานั่งทำโจทย์เลข แล้วก็ฝึกเขียน AWA คือชีวิตวนเวียนอยู่แค่นี้จริงๆ ครับ
มีท้อบ้างไหม? โหยยย…ถามได้! บ่อยครั้งเลยครับที่รู้สึกท้อ จำได้แม่นเลย มีอยู่วันนึงนะ นั่งทำข้อสอบ Verbal จำลองของ Manhattan Prep คือเค้าว่ายากใช่ปะ เราก็เออ ลองดู ผลออกมาคือแบบ…ต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก เฟลสุดๆ วันนั้นไม่ได้ทำอะไรต่อเลย นั่งซึมไปครึ่งวัน คิดในใจว่านี่เราจะไหวจริงเหรอวะ หรือว่าความฝันไปเรียนต่อมันจะจบแค่นี้ แต่พอตั้งสติได้ก็ฮึดสู้ใหม่ บอกตัวเองว่าถ้าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้สิวะ!
เราใช้วิธีค่อยๆ เก็บไปทีละเล็กทีละน้อยครับ วันนี้ทำได้ไม่ดี พรุ่งนี้เอาใหม่ พยายามหาจุดอ่อนของตัวเองแล้วก็แก้ไขมันไปเรื่อยๆ เริ่มเห็นคะแนนขยับขึ้นทีละนิดๆ มันก็เป็นกำลังใจให้เราสู้ต่อได้จริงๆ นะ
วันตัดสินชะตา
พอถึงวันสอบจริงนี่ตื่นเต้นสุดๆ ครับ คืนก่อนสอบนี่แทบไม่ได้นอนเลย คิดวนไปวนมา ไปถึงศูนย์สอบแต่เช้าเลยครับ กลัวไปไม่ทัน บรรยากาศในห้องสอบมันก็จะเงียบๆ หน่อย มีความกดดันแผ่ซ่านออกมาเบาๆ เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจเข้มหน่อยตามระเบียบครับ
ตอนทำข้อสอบนี่คือตั้งสติสุดฤทธิ์จริงๆ ครับ พาร์ท Verbal นี่ลุ้นทุกข้อเลย ศัพท์บางคำคุ้นๆ เหมือนเคยเห็น แต่ก็นึกไม่ออก ส่วนพาร์ท Quant ก็พยายามรอบคอบที่สุด ไม่ให้พลาดข้อง่ายๆ ส่วน AWA นี่ก็จัดเต็ม เขียนจนปวดมือไปหมด พยายามนึกถึงโครงสร้างที่ซ้อมมา แล้วก็ใส่เหตุผล ตัวอย่างเข้าไป
เวลาในห้องสอบมันผ่านไปเร็วมากครับ เผลอแป๊บเดียว อ้าว! หมดเวลาแล้วเหรอ
บทสรุปและสิ่งที่ได้เรียนรู้
สอบเสร็จออกมานี่โล่งเลยครับ เหมือนยกภูเขาไฟฟูจิออกจากอก (ฮ่าๆ) ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง อย่างน้อยเราก็ได้ทำเต็มที่แล้วล่ะ จากนั้นก็เข้าสู่โหมดรอผลสอบอย่างใจจดใจจ่อครับ ก็มีแอบลุ้นอยู่เหมือนกันนะ

พอผลสอบออก ก็…ตามนั้นครับ ไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟคอะไรมากมาย แต่ก็เป็นคะแนนที่เราพอใจในระดับหนึ่ง และที่สำคัญกว่าคะแนนก็คือ ประสบการณ์ที่เราได้จากการเตรียมตัวสอบครั้งนี้ มันสอนให้เรารู้จักวางแผน มีวินัยในตัวเอง อดทน แล้วก็ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ครับ
อยากจะบอกทุกคนที่กำลังเตรียมตัวสอบ GRE หรือสอบอะไรก็ตามนะครับว่า อย่ายอมแพ้ครับ มันอาจจะหนัก อาจจะเหนื่อย อาจจะท้อบ้างเป็นธรรมดา แต่ถ้าเราตั้งใจจริงและพยายามอย่างเต็มที่แล้ว ยังไงมันก็ต้องมีวันที่เป็นของเราครับ สู้ๆ นะครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนเลย!