สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยกับการเตรียมตัวสอบ GRE ของผมเอง บอกเลยว่าตอนแรกก็มึนๆ งงๆ เหมือนกันว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังครับ
จุดเริ่มต้นของการผจญภัย
เรื่องของเรื่องคือผมมีความฝันอยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศครับ แล้วไอ้เจ้า GRE เนี่ย มันเป็นเหมือนด่านแรกที่ต้องผ่านให้ได้ ตอนนั้นก็เริ่มจากศูนย์เลยนะ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันมากนัก รู้แค่ว่ายาก (ฮา) ผมก็เริ่มจากการค้นหาข้อมูลก่อนเลยครับ ว่ามันคืออะไร สอบอะไรบ้าง มีกี่พาร์ท พาร์ทไหนโหด พาร์ทไหนพอไหว

ลงสนามจริง: การเตรียมตัว
พอเริ่มเห็นภาพรวมคร่าวๆ แล้ว ผมก็เริ่มวางแผนครับ กางปฏิทินดูเลยว่ามีเวลาเตรียมตัวกี่เดือน แล้วก็แบ่งเวลาให้แต่ละส่วน
- คำศัพท์ (Verbal Reasoning): โอ้โห อันนี้คือตัวปราบเซียนสำหรับผมเลย ศัพท์แต่ละคำนี่มันอะไรกันเนี่ย! ช่วงแรกท้อมากครับ ท่องแล้วลืม ลืมแล้วท่อง ผมใช้วิธีโหลดแอปพลิเคชันเกี่ยวกับศัพท์ GRE มาเล่นครับ แล้วก็ซื้อหนังสือรวมศัพท์มานั่งท่องก่อนนอนทุกวัน ทำ flashcards ด้วยนะ แปะเต็มห้องไปหมด แรกๆ อาจจะจำไม่ได้เยอะ แต่พอทำไปเรื่อยๆ มันเริ่มซึมซับเองครับ อีกอย่างคือพยายามอ่านบทความภาษาอังกฤษเยอะๆ พวก The New Yorker, The Atlantic อะไรพวกนี้ พอเจอศัพท์ที่ไม่รู้ก็จดไว้แล้วหาความหมาย มันช่วยให้เห็นการใช้จริงด้วย
- การอ่าน (Verbal Reasoning – Reading Comprehension): ส่วนนี้ก็ต้องอาศัยการฝึกฝนเยอะเหมือนกัน ผมเริ่มจากการจับเวลาอ่านบทความสั้นๆ แล้วลองสรุปใจความสำคัญ ฝึกหา main idea, purpose ของผู้เขียน แรกๆ อ่านไม่ทันบ้าง ตอบผิดบ้าง แต่ก็พยายามทำไปเรื่อยๆ ครับ หนังสือของ ETS Official Guide นี่ช่วยได้เยอะเลย เพราะมันใกล้เคียงข้อสอบจริง
- คณิตศาสตร์ (Quantitative Reasoning): ส่วนตัวผมว่าพาร์ทนี้ไม่ยากเท่า Verbal สำหรับคนไทยนะ พื้นฐานเลข ม.ปลาย บ้านเราค่อนข้างแน่นอยู่แล้ว แต่! อย่าประมาทครับ มันจะมีพวกโจทย์ปัญหาที่ค่อนข้าง tricky หรือบางทีเราลืมสูตรพื้นฐานไปแล้ว ผมก็ทบทวนเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ต้น ม.ปลาย ใหม่หมดเลย แล้วก็เน้นทำโจทย์เยอะๆ โดยเฉพาะโจทย์ที่ต้องวิเคราะห์ข้อมูลจากกราฟหรือตาราง
- การเขียน (Analytical Writing Assessment – AWA): ส่วนนี้ต้องเขียน essay สองเรื่องครับ ผมเริ่มจากการอ่านตัวอย่าง essay ที่ได้คะแนนดีๆ เยอะๆ ดูว่าเค้ามีโครงสร้างการเขียนยังไง ใช้เหตุผลสนับสนุนยังไง แล้วก็ลองฝึกเขียนเอง จับเวลาเหมือนสอบจริง แล้วเอามาให้เพื่อนช่วยอ่าน หรือถ้าใครมีครูสอนพิเศษก็ให้ครูช่วยตรวจครับ สำคัญคือต้องมี thesis statement ที่ชัดเจน มีเหตุผลรองรับ และมีการยกตัวอย่างที่เหมาะสม
เครื่องมือและเทคนิคส่วนตัว
นอกจากการอ่านหนังสือแล้ว ผมก็ใช้ตัวช่วยอื่นๆ ด้วยนะ อย่างที่บอกไปคือแอปศัพท์ต่างๆ แล้วก็มีพวกเว็บไซต์ที่ให้ทำข้อสอบ GRE ฟรี หรือมีวิดีโอสอนเทคนิคต่างๆ (แต่ต้องระวังอย่าดูเยอะจนสับสนนะ เอาที่เราเข้าใจ) ที่สำคัญสุดๆ คือการทำข้อสอบเก่า หรือ Mock Test ครับ ผมทำเยอะมากกกก มันช่วยให้เราชินกับรูปแบบข้อสอบ จับเวลาได้แม่นขึ้น แล้วก็รู้จุดอ่อนตัวเองว่าต้องไปเสริมตรงไหน
เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมใช้:
- จัดตารางอ่านหนังสือให้สม่ำเสมอ: ไม่ใช่โหมอ่านทีเดียว แต่แบ่งเป็นวันละนิดวันละหน่อย
- หาเพื่อนร่วมชะตากรรม: การมีเพื่อนที่เตรียมสอบเหมือนกันช่วยได้เยอะครับ แลกเปลี่ยนความรู้ ให้กำลังใจกัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ: อย่าอ่านจนเบลอ สมองก็ต้องการพักผ่อนเหมือนกัน
- อย่าท้อ: มันจะมีช่วงที่รู้สึกว่าทำไมไม่เก่งขึ้นเลย ทำไมยังผิดเยอะอยู่ ให้บอกตัวเองว่าทุกคนก็เป็น พยายามต่อไป
วันสอบและบทสรุป
ก่อนวันสอบจริง ผมพยายามไม่ทำอะไรหนักๆ ครับ ทบทวนสูตรนิดหน่อย ทำสมาธิ พอถึงวันสอบก็พยายามไม่ตื่นเต้น (แต่ก็แอบตื่นเต้นอยู่ดี ฮ่าๆ) ทำตามที่ซ้อมมาเลยครับ อ่านโจทย์ให้รอบคอบ บริหารเวลาให้ดี
สุดท้ายผลออกมาก็เป็นที่น่าพอใจสำหรับผมครับ อาจจะไม่ใช่คะแนนที่สูงลิ่ว แต่ก็เพียงพอที่จะยื่นเข้ามหาวิทยาลัยที่หวังไว้ได้ สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเตรียมตัวสอบ GRE ไม่ใช่แค่ความรู้ในตำรา แต่เป็นเรื่องของวินัย ความอดทน และการรู้จักตัวเองมากขึ้นด้วยครับ มันเป็นการเดินทางที่เหนื่อยแต่ก็คุ้มค่าจริงๆ
หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ GRE อยู่นะครับ สู้ๆ ครับทุกคน!