สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆ กับการตะลุยข้อสอบ IELTS ของผมเอง เผื่อจะเป็นแนวทางหรือเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวกันอยู่นะครับ บอกเลยว่าเส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปถ้าเราตั้งใจจริง
ตอนแรกก็คิดว่าหมูๆ
ตอนแรกเลยเนี่ย ผมก็มีความมั่นใจในภาษาอังกฤษของตัวเองอยู่ประมาณนึง คิดในใจว่า IELTS เหรอ? เอ้อ คงไม่เท่าไหร่หรอกมั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน เราก็เรียนมาตั้งแต่เด็ก น่าจะพอถูๆ ไถๆ ไปได้แหละน่า แต่พอได้ลองไปหยิบพวกหนังสือเตรียมสอบมาเปิดดูเท่านั้นแหละครับ… ความคิดเปลี่ยนเลย! โอ้โห อะไรมันจะเยอะแยะขนาดนี้ ทั้งศัพท์ที่ไม่เคยเห็น แกรมม่าที่ลืมไปแล้ว ไหนจะรูปแบบข้อสอบแต่ละพาร์ทที่ดูซับซ้อนไปหมด ตอนนั้นยอมรับเลยว่าแอบท้อไปเหมือนกันนะ
เริ่มลงมือจริงจัง: การเดินทางของผม
หลังจากตั้งสติได้ ผมก็เริ่มวางแผนการเตรียมตัวอย่างจริงจังครับ อันดับแรกเลยคือต้องรู้จักศัตรูของเราก่อน ผมก็ไปค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับข้อสอบ IELTS ทั้งสี่ทักษะเลยครับว่าแต่ละส่วนมันทดสอบอะไรบ้าง รูปแบบเป็นยังไง เกณฑ์การให้คะแนนเป็นแบบไหน
พาร์ทฟัง (Listening):
- ผมเริ่มจากการหาคลิปเสียงภาษาอังกฤษมาฟังเยอะๆ เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นข่าว Podcast หรือแม้แต่พวกซีรีส์ฝรั่ง (แบบเปิดซับอังกฤษนะ) แรกๆ ก็จับใจความไม่ค่อยได้หรอกครับ ฟังผิดฟังถูกไปหมด
- แต่ก็พยายามฟังทุกวัน วันละนิดวันละหน่อย แล้วก็เริ่มหาแบบฝึกหัด Listening ของ IELTS มาลองทำดู แรกๆ ก็ผิดกระจายครับ แต่พอทำไปเรื่อยๆ มันเริ่มจับทางได้ เริ่มรู้ว่าต้องตั้งใจฟังตรงไหน keyword คืออะไร
- ที่สำคัญเลยคือต้องมีสมาธิมากๆ เพราะเสียงมันพูดไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุดรอเราเลย
พาร์ทอ่าน (Reading):
- ส่วนตัวผมว่าพาร์ทนี้หินที่สุดแล้วสำหรับผม เพราะบทความมันยาวมากกก แล้วศัพท์ก็ยากอีกต่างหาก
- เทคนิคที่ผมใช้คือ ฝึกอ่านแบบ Skimming กับ Scanning ครับ คืออ่านแบบเร็วๆ เพื่อจับใจความหลักก่อน แล้วค่อยไปหาคำตอบจากคำถาม
- พยายามขีดเส้นใต้คำสำคัญ หรือวงกลมคำที่เราคิดว่าเป็น keyword ไว้ มันช่วยได้เยอะเลยตอนกลับมาหาคำตอบ
- แล้วก็ต้องบริหารเวลาดีๆ นะครับ เพราะมีบทความตั้งหลายอัน แต่เวลามีจำกัด ผมนี่ทำไม่ทันบ่อยมากตอนซ้อม
พARTเขียน (Writing):
- มาถึงพาร์ทเขียนนี่ก็ปวดหัวไม่แพ้กัน Task 1 ที่ต้องอธิบายกราฟ แผนภูมิ ตารางต่างๆ นี่ก็ต้องหัดดูโครงสร้างประโยค ฝึกใช้คำศัพท์ที่หลากหลาย
- ส่วน Task 2 ที่เป็น Essay นี่ก็ต้องฝึกคิดไอเดีย ฝึกวางโครงเรื่อง แล้วก็เขียนออกมาให้เป็นระบบ ผมพยายามเขียนทุกวันครับ วันละหัวข้อสองหัวข้อ แล้วก็ลองเอาไปให้เพื่อนที่เก่งๆ ช่วยดูบ้าง หรือไม่ก็หาตัวอย่างงานเขียนดีๆ มาอ่านเป็นแนวทาง
- สิ่งที่ยากคือการเขียนให้ตรงประเด็นแล้วก็ใช้แกรมม่าให้ถูกต้องนี่แหละครับ
พาร์ทพูด (Speaking):
- พาร์ทนี้สำหรับผมคือตื่นเต้นสุดแล้วครับ กลัวพูดไม่ออก กลัวกรรมการฟังไม่รู้เรื่อง
- วิธีฝึกของผมคือ พูดกับตัวเองหน้ากระจกครับ! ใช่ครับ อ่านไม่ผิด พูดคนเดียวนี่แหละ อัดเสียงตัวเองไว้ฟังด้วย จะได้รู้ว่าเราพูดติดขัดตรงไหน ออกเสียงเพี้ยนไปหรือเปล่า
- แล้วก็พยายามหาหัวข้อตัวอย่างมาลองตอบดูเยอะๆ ครับ ฝึกคิดคำตอบให้เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ท่องจำไปตอบ
- ตอนซ้อมก็พยายามทำตัวให้สบายๆ เหมือนคุยกับเพื่อน จะได้ไม่เกร็ง
วันจริงในสนามสอบ
พอถึงวันสอบจริง บอกเลยว่าตื่นเต้นคูณสิบ! บรรยากาศในห้องสอบมันมีความกดดันแปลกๆ ทุกคนดูตั้งใจมาก ผมก็พยายามทำสมาธิ ทำไปทีละส่วน ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ พาร์ทไหนทำได้ก็รีบทำ พาร์ทไหนติดก็ข้ามไปก่อนแล้วค่อยกลับมาดูถ้ามีเวลา แต่โดยรวมก็พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในวันนั้นครับ
บทสรุปและสิ่งที่ได้เรียนรู้
หลังจากสอบเสร็จ รอผลอยู่หลายวันเหมือนกันครับ พอผลออกมา… ก็ต้องบอกว่าตามสภาพความพยายามของเรานั่นแหละครับ ฮ่าๆ อาจจะไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เป๊ะๆ แต่สิ่งที่ผมได้กลับมามันมากกว่าคะแนนสอบนะ มันคือประสบการณ์ที่สอนให้เรารู้จักการวางแผน การมีวินัยกับตัวเอง ความอดทน แล้วก็ได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของเราไปอีกขั้นจริงๆ
อยากจะบอกเพื่อนๆ ที่กำลังจะสอบ IELTS ว่าอย่าไปกลัวมันครับ มันอาจจะดูยาก ดูเยอะ แต่ถ้าเราเตรียมตัวดี ตั้งใจจริง ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้แน่นอน สู้ๆ นะครับ!
