โอ้โห เรื่องค่าสอบ IELTS นี่นะ ถามกันมาเยอะจริงๆ วันนี้เลยจะมาเล่าจากประสบการณ์ตรงๆ เลยแล้วกัน คือตอนแรกสุดเลยนะ ที่คิดจะไปสอบ IELTS เนี่ย ก็ไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนหรอก แค่อยากจะไปเรียนต่อนอกไง มันเป็นความฝันอ่ะนะ ใครๆ ก็อยากจะไปเปิดโลกกว้าง หาประสบการณ์ใหม่ๆ บ้าง แต่พอเริ่มลงมือหาข้อมูลจริงๆ จังๆ เท่านั้นแหละคุณเอ๊ย แทบหงายหลัง! เจอค่าสอบเข้าไปนี่ถึงกับอึ้งไปพักนึงเลย
คือตอนนั้นนะ นั่งเปิดเว็บนู่นเว็บนี่ เช็คราคาเทียบกันใหญ่เลย แต่ละที่ราคามันก็ไม่เท่ากันเป๊ะๆ หรอกนะ มันก็แล้วแต่ศูนย์สอบด้วย บางทีเขาก็มีโปรโมชั่นนู่นนี่นั่นออกมาล่อตาล่อใจ แต่ที่หลักๆ เลยที่คนส่วนใหญ่เขาไปสอบกัน ก็จะมี British Council กับ IDP นี่แหละ ที่ฉันไปส่องๆ ดูมานะ ราคามันก็อยู่แถวๆ นั้นแหละ ประมาณเจ็ดพันกว่าบาท ปริ่มๆ แปดพันบาทเลยล่ะ อันนี้คือแบบสอบ Academic หรือ General Training ธรรมดานะ ถ้าเป็นแบบ UKVI ที่เอาไปยื่นวีซ่าอังกฤษโดยตรง อันนั้นก็จะกระโดดขึ้นไปอีกหน่อย แต่ตอนนั้นฉันยังไม่ได้แพลนไปอังกฤษโดยตรงไง เลยดูแบบธรรมดาไว้ก่อน
แล้วจะสอบที่ไหนดีล่ะทีนี้?
พอเห็นตัวเลขค่าสอบแล้วก็ต้องมานั่งกุมขมับเลยว่าจะเอาไงต่อดี คือเงินจำนวนนี้มันก็ไม่ใช่เล่นๆ นะเว้ย เอาไปซื้อของอย่างอื่นได้ตั้งเยอะแยะ แต่สุดท้ายก็ต้องกัดฟันอ่ะ เพราะมันจำเป็นจริงๆ ถ้าอยากจะไปเรียนต่อให้ได้จริงๆ มันก็ต้องมีคะแนน IELTS ไปยื่นเขาใช่ไหมล่ะ ก็เลยเริ่มมองหาเลยว่ามีศูนย์สอบที่ไหนใกล้บ้านบ้าง แล้ววันสอบวันไหนที่เราพอจะว่างไปสอบได้
ส่วนตัวฉันนะ ตอนนั้นเลือกสอบกับ IDP ไป เพราะมีเพื่อนหลายคนแนะนำมาว่าระบบการจัดการเขาค่อนข้างโอเคเลย แล้วก็มีรอบสอบให้เลือกเยอะดีด้วย ตอนนั้นรู้สึกว่ามันสะดวกกับเราที่สุดแล้วล่ะ แล้วก็ดูน่าเชื่อถือดีด้วย พอตัดสินใจได้แล้วก็เข้าไปดูรายละเอียดในเว็บเขาเลยว่าต้องทำอะไรยังไงบ้าง
ขั้นตอนการสมัครสอบและจ่ายตังค์
ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญคือการสมัครสอบ ตอนแรกก็เข้าไปที่เว็บไซต์ของ IDP นั่นแหละ มันก็จะมีให้เราเลือกประเภทการสอบ (Academic หรือ General Training) เลือกวันสอบ เลือกสถานที่สอบที่เราสะดวก แล้วก็กรอกข้อมูลส่วนตัวนู่นนี่นั่นไปตามสเต็ปของเขา พอไปถึงหน้าจ่ายเงินนี่แหละที่ต้องทำใจนิดนึง ฮ่าๆๆ
ตอนนั้นจำได้แม่นเลยว่าฉันเลือกจ่ายผ่านบัตรเครดิตไปนะ มันง่ายดี ไม่ต้องเสียเวลาไปโอนเงินที่ธนาคารหรือตู้ ATM ให้วุ่นวาย ก็แค่กรอกเลขบัตร วันหมดอายุ เลข CVV หลังบัตรอะไรพวกนั้นไปตามปกติ ระบบมันก็จะโชว์ยอดรวมทั้งหมดให้เราเห็นเลยว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ตอนนั้นโดนไปเต็มๆ เจ็ดพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน! จ่ายปุ๊บก็จะมีอีเมลยืนยันการสมัครสอบส่งเข้ามาในเมลล์เราทันที ก็เก็บอีเมลนั้นไว้เป็นหลักฐานให้ดีเลยนะ
- อย่างแรกเลยคือเช็คก่อนว่าศูนย์สอบไหนใกล้บ้านเรา เดินทางสะดวก
- จากนั้นก็เข้าไปดูรอบสอบในเว็บไซต์ของเขาเลยว่ามีวันไหนที่เราว่างบ้าง
- เตรียมข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ให้พร้อม เช่น เลขบัตรประชาชน พาสปอร์ต (ถ้ามี)
- เตรียมบัตรเครดิต หรือช่องทางจ่ายเงินอื่นๆ ที่เขารับ ให้พร้อมจ่าย
- พอกรอกข้อมูลครบ จ่ายเงินเรียบร้อย ก็รออีเมลยืนยันจากเขาได้เลย
ความรู้สึกหลังเสียเงินก้อนโต
เอาจริงๆ นะ ตอนที่กดจ่ายเงินไปแล้วนี่แอบใจหายวาบเหมือนกัน เงินตั้งเจ็ดพันกว่าบาทนี่มันซื้อของกินอร่อยๆ ได้หลายมื้อเลยนะ! แต่พอมานั่งคิดดูดีๆ อีกที ว่ามันคือการลงทุนเพื่ออนาคตของเรา เพื่อความฝันที่เราอยากจะไปให้ถึง มันก็รู้สึกว่าคุ้มค่านะที่ยอมจ่ายไป ตอนนั้นก็เลยตั้งปณิธานกับตัวเองเลยว่าต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบให้เต็มที่ที่สุด สอบให้มันผ่านในครั้งเดียวไปเลย ไม่งั้นเสียดายตังค์แย่แน่ๆ
จริงๆ แล้วค่าสอบมันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวไปสอบ IELTS เท่านั้นนะ มันยังไม่รวมค่าหนังสือเรียน ค่าคอร์สเรียนพิเศษต่างๆ (ถ้าใครจำเป็นต้องลงเรียนเพิ่ม) อีกสารพัดเลย แต่ไอ้เจ้าค่าสอบนี่แหละที่มันเหมือนเป็นด่านแรกที่เราต้องเจอและต้องผ่านมันไปให้ได้ ถ้าเราผ่านด่านค่าใช้จ่ายนี้ไปได้แล้ว มันก็เหมือนเป็นกำลังใจเล็กๆ ให้เรามีแรงฮึดสู้กับการเตรียมตัวสอบต่อไปได้เหมือนกันนะ
ใครที่กำลังมีแพลนจะไปสอบ IELTS ก็สู้ๆ นะครับ แนะนำว่าให้ลองเข้าไปเช็คข้อมูลค่าสอบล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของ British Council หรือ IDP อีกทีจะชัวร์ที่สุดนะ เพราะบางทีราคามันอาจจะมีการปรับขึ้นลงบ้างตามช่วงเวลา ขอให้ทุกคนโชคดีกับการสอบ ได้คะแนนตามที่หวังไว้นะครับ!