สวัสดีทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยเรื่องการสมัครสอบ IELTS เนี่ยแหละ คือเรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า อยู่ดีๆ ก็อยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศไง แล้วไอ้เจ้า IELTS เนี่ย มันเป็นด่านแรกที่ต้องผ่านให้ได้เลย ไม่งั้นฝันสลายแน่นอน
ตอนแรกก็มึนตึ้บเลยนะ จะเริ่มจากตรงไหนดีวะ เข้าเว็บนู้นที เว็บนี้ที ข้อมูลเต็มไปหมด อ่านจนตาลาย สรุปก็ไม่รู้จะเลือกสอบกับเจ้าไหนดี ระหว่าง British Council กับ IDP มันมีสองเจ้านี่แหละที่หลักๆ เลย สุดท้ายก็ถามเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคยสอบมาบ้าง บางคนก็บอกเจ้านั้นดี เจ้านี้โอเค เอาจริงๆ นะ ผมว่ามันก็คงคล้ายๆ กันแหละมั้ง เลยตัดสินใจแบบ…เออ! เอาที่มันดูสมัครไม่ยุ่งยากละกันวะ! ตอนนั้นก็ลองกดๆ เข้าไปดูทั้งสองเว็บเลยนะ

ขั้นตอนการสมัครที่เจอมากับตัว
พอตัดสินใจได้แล้วว่าจะสอบกับเจ้าไหน (ขอไม่บอกละกันนะว่าเจ้าไหน เดี๋ยวหาว่าโฆษณา ฮ่าๆ) ก็เริ่มเลย! ขั้นแรกก็ต้องเข้าไปที่เว็บของเค้าก่อนเลย หน้าตาเว็บก็ดูทันสมัยดีนะ แต่บางทีก็แอบงงๆ นิดหน่อย หาเมนูสมัครสอบอยู่นานเหมือนกัน
สร้างบัญชีก่อนเลยเพื่อน
แน่นอนว่าส่วนใหญ่ระบบออนไลน์มันก็ต้องให้เราสร้างบัญชีก่อน กรอกอีเมล ตั้งรหัสผ่าน ยืนยันตัวตนผ่านอีเมลอีกที ก็เป็นสเต็ปปกติทั่วไปแหละ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากตรงนี้ แต่ก็แอบหงุดหงิดนิดนึงตอนที่รหัสผ่านมันเรื่องมาก ต้องมีตัวพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ ตัวเลข อักขระพิเศษ โอยยย กว่าจะผ่าน!
กรอกข้อมูลส่วนตัวยาวเป็นหางว่าว
พอมีบัญชีแล้ว ก็ถึงตาที่ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวละ โอ้โห อันนี้สิของจริง ถามละเอียดมาก ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ เบอร์โทร เลขบัตรประชาชน เลขพาสปอร์ต บางช่องก็มีเครื่องหมายดอกจันแดงๆ ว่าต้องกรอกนะ ห้ามข้าม ไอ้เราก็ค่อยๆ กรอกไปทีละช่อง กลัวผิดมาก เพราะเค้าบอกว่าถ้าข้อมูลผิดนี่เรื่องยาวเลยนะ อาจจะไม่ได้สอบ หรือมีปัญหาตอนรับผลสอบอีก
จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนเลือกประเภทการสอบ จะเอา Academic หรือ General Training ผมก็เลือก Academic ไป เพราะจะเอาไปยื่นเรียนต่อ แล้วก็เลือกประเทศที่อยากให้ส่งผลสอบไปให้ด้วย
เลือกวันสอบ สถานที่สอบ
อันนี้ก็แล้วแต่ดวงเลยนะ บางทีรอบที่เราอยากได้ก็เต็มเร็วมาก ผมก็ต้องนั่งไล่ดูปฏิทินเลยว่าวันไหนว่างบ้าง สถานที่สอบก็มีให้เลือกหลายที่เหมือนกัน ทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด ก็เลือกที่ใกล้บ้าน เดินทางสะดวกไว้ก่อน จะได้ไม่เหนื่อยวันสอบ
- ดูรอบสอบที่เปิด
- เลือกวันที่เราสะดวก
- เลือกสถานที่สอบที่ใกล้
ตอนเลือกนี่ก็ลุ้นๆ นะ กลัวกดเลือกแล้วมันเด้งว่าเต็มแล้ว โชคดีที่รอบที่ผมอยากได้ยังพอมีที่ว่างอยู่
อัปโหลดเอกสารสำคัญ
ขั้นตอนนี้ก็ต้องเตรียมไฟล์เอกสารให้พร้อม ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสำเนาพาสปอร์ต หรือสำเนาบัตรประชาชนนี่แหละ ต้องสแกนหรือถ่ายรูปให้ชัดเจน แล้วก็อัปโหลดเข้าระบบไป ขนาดไฟล์ก็มีกำหนดด้วยนะ ถ้าใหญ่ไปก็อัปโหลดไม่ผ่านอีก ต้องมาย่อไฟล์กันวุ่นวายเลยทีเดียว ผมก็เจอปัญหานี้เหมือนกัน กว่าจะย่อไฟล์ให้ได้ขนาดที่เค้าต้องการ เล่นเอาเหงื่อตก
ขั้นตอนจ่ายตังค์ที่แสนจะลุ้นระทึก
มาถึงด่านสุดท้ายของการสมัครแล้ว นั่นก็คือการจ่ายเงิน ค่าสอบ IELTS นี่ก็ไม่ใช่ถูกๆ เลยนะ หลายพันบาทอยู่เหมือนกัน ตอนจ่ายเงินนี่คือใจเต้นตึ้กตั้กเลย กลัวระบบล่ม กลัวตัดบัตรไม่ผ่าน กลัวกรอกเลขบัตรผิด คือคิดไปต่างๆ นานา ผมเลือกจ่ายผ่านบัตรเครดิต ก็กรอกข้อมูลบัตรไปตามระเบียบ กดปุ่มยืนยันการชำระเงินปุ๊บ ก็นั่งลุ้นเลยจ้าาา
เย้! สมัครสำเร็จแล้วโว้ย!
ไม่นานเกินรอ ระบบก็แจ้งว่าการชำระเงินสำเร็จแล้ว พร้อมกับมีอีเมลยืนยันการสมัครสอบส่งมาให้ทันที โอ้โห ตอนนั้นคือโล่งอกไปแปดสิบเปอร์เซ็นต์เลย อย่างน้อยก็สมัครเสร็จไปขั้นตอนนึงละ เหลือแค่รอเค้านัดวันสอบ Speaking อีกที ซึ่งปกติเค้าจะแจ้งมาก่อนวันสอบจริงไม่กี่วัน
ความรู้สึกหลังสมัครเสร็จ
เอาจริงๆ นะ ถึงจะสมัครเสร็จแล้ว แต่ใจมันก็ยังตุ้มๆ ต่อมๆ อยู่ดี เพราะนี่มันแค่จุดเริ่มต้นเองไง ภารกิจต่อไปคือต้องไปเตรียมตัวอ่านหนังสือ เตรียมตัวสอบจริงจังแล้ว ค่าสอบก็แพง ถ้าสอบไม่ผ่านนี่เสียดายตังค์แย่เลย
ที่อยากจะบ่นนิดนึงก็คือ ไอ้ระบบออนไลน์เนี่ย บางทีมันก็ไม่ได้ใช้ง่ายสำหรับทุกคนนะ บางขั้นตอนก็ดูสับสน กว่าจะคลิกไปถึงหน้าที่ต้องการได้ก็หลายสเต็ปอยู่เหมือนกัน แล้วไอ้ตอนอัปโหลดเอกสารเนี่ย ถ้าคนที่ไม่ค่อยถนัดเรื่องคอมพิวเตอร์ อาจจะมีงงๆ ได้เลยแหละ แต่โดยรวมก็ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี ไม่ได้ติดขัดอะไรมากมายจนน่าหงุดหงิดเกินไป

ก็หวังว่าประสบการณ์การสมัครสอบ IELTS ของผมแบบบ้านๆ กากๆ นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาข้อมูลอยู่นะครับ สู้ๆ ครับทุกคน!