สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยเรื่องการหาข้อมูล “สอบ sat ราคา” นี่แหละครับ พอดีมีช่วงนึงที่ต้องใช้ข้อมูลนี้แบบจริงจัง เลยอยากจะมาเล่าให้ฟังว่าผมเริ่มจากตรงไหน แล้วไปเจออะไรมาบ้าง
เริ่มต้นการค้นหา
ตอนแรกเลยนะครับ ผมก็เหมือนคนอื่นๆ ทั่วไปแหละครับ เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมา แล้วก็พิมพ์คำว่า “สอบ sat ราคา” ลงในช่องค้นหาเลย ผลลัพธ์ที่ได้ก็มีเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งเว็บที่เป็นทางการ เว็บติวเตอร์ เว็บบล็อกต่างๆ อ่านไปอ่านมาก็เริ่มจะงงๆ นิดหน่อย เพราะบางที่ก็บอกราคาไม่เท่ากันบ้าง หรือข้อมูลดูเก่าไปบ้าง ผมก็เลยคิดว่าต้องหาแหล่งที่มันน่าเชื่อถือจริงๆ

ลงลึกไปที่แหล่งข้อมูลหลัก
ผมเลยตัดสินใจว่าต้องเข้าไปดูที่เว็บไซต์ของ College Board โดยตรงเลยครับ เพราะยังไงซะ เขาก็เป็นคนจัดสอบนี่นา ตอนเข้าไปแรกๆ ก็อาจจะต้องใช้เวลาทำความเข้าใจหน้าเว็บเขาสักหน่อย เพราะมันเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แล้วก็มีเมนูย่อยๆ เยอะแยะไปหมด ผมก็ค่อยๆ กดดูไปทีละส่วน พยายามมองหาคำว่า “Registration” หรือ “Fees” อะไรทำนองนี้
ในที่สุดก็เจอครับ! มันจะมีการแจกแจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆ ไว้ค่อนข้างชัดเจนเลย ซึ่งผมก็เพิ่งมารู้ตอนนั้นแหละว่ามันไม่ได้มีแค่ค่าสมัครสอบอย่างเดียวนะ มันยังมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ อีกด้วย
รายละเอียดค่าใช้จ่ายที่เจอ
จากที่ผมใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับหน้าเว็บของเขาพักใหญ่ๆ เนี่ย ก็พอจะสรุปรายการค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่เกี่ยวกับการสอบ SAT ได้ประมาณนี้ครับ:
- ค่าสมัครสอบพื้นฐาน (SAT Registration Fee): อันนี้เป็นค่าหลักเลยที่เราต้องจ่ายเพื่อจะได้สิทธิ์เข้าไปนั่งสอบ
- ค่าธรรมเนียมศูนย์สอบต่างประเทศ (International Regional Fee): สำหรับคนที่สอบนอกประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างพวกเราในไทยเนี่ย ก็จะมีค่าธรรมเนียมส่วนนี้เพิ่มเข้ามาด้วยครับ อันนี้สำคัญเลย เพราะมันทำให้ราคารวมสูงขึ้นพอสมควร
- ค่าสอบส่วน Essay (ถ้าเลือกสอบ): ตอนนั้น SAT มันยังมีส่วน Essay ให้เลือกสอบด้วย (แต่ปัจจุบันเหมือนจะยกเลิกไปแล้วสำหรับนักเรียนส่วนใหญ่ ต้องเช็คอีกทีนะ) ถ้าใครจะสอบส่วนนี้ก็ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าสมัครล่าช้า (Late Registration Fee): อันนี้ถ้าใครสมัครไม่ทันตามกำหนดปกติ ก็จะต้องเสียค่าปรับเพิ่มอีกต่างหาก ซึ่งก็แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ
- ค่าเปลี่ยนแปลงวันสอบ/ศูนย์สอบ (Change Fee): เกิดสมัครไปแล้วอยากจะเปลี่ยนวันหรือย้ายที่สอบ ก็มีค่าธรรมเนียมสำหรับการเปลี่ยนแปลงด้วยครับ
- ค่าส่งคะแนนเพิ่มเติม (Additional Score Reports): ตอนสมัครสอบเขามักจะให้ส่งคะแนนฟรีได้จำนวนหนึ่ง แต่ถ้าอยากส่งไปให้มหาวิทยาลัยมากกว่านั้น ก็ต้องจ่ายเพิ่มต่อที่ครับ
สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ ราคาพวกนี้มันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้นะครับ เพราะฉะนั้นตอนที่เราจะสมัครจริงๆ เนี่ย ควรจะเข้าไปเช็คข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของ College Board อีกทีจะดีที่สุดเลยครับ อย่าไปยึดติดกับข้อมูลเก่าๆ ที่เคยเห็นมา
ขั้นตอนการจ่ายเงิน (คร่าวๆ)
พอเลือกทุกอย่างที่เราต้องการแล้ว ระบบมันก็จะสรุปยอดรวมมาให้ครับ การจ่ายเงินส่วนใหญ่ก็จะเป็นการจ่ายผ่านบัตรเครดิตออนไลน์ ซึ่งก็ต้องเตรียมบัตรให้พร้อม แล้วก็ทำตามขั้นตอนที่เว็บไซต์เขาระบุไว้เลยครับ ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไรมาก
สิ่งที่ได้เรียนรู้และอยากฝากไว้
จากประสบการณ์ที่ต้องไปนั่งค้นคว้าหาข้อมูลเรื่อง “สอบ sat ราคา” ด้วยตัวเองเนี่ย ผมก็มีเรื่องที่อยากจะฝากไว้หน่อยครับ:
- ตรวจสอบจากแหล่งที่เป็นทางการเสมอ: อย่างที่บอกไปครับ เข้าเว็บ College Board โดยตรงเลย ชัวร์สุด
- วางแผนการสมัครสอบล่วงหน้า: จะได้ไม่ต้องเสียค่าสมัครล่าช้าโดยไม่จำเป็นครับ ประหยัดไปได้เยอะ
- ดูรายละเอียดค่าธรรมเนียมให้ครบถ้วน: อย่าดูแค่ค่าสมัครพื้นฐาน เพราะมันอาจจะมีค่าอื่นๆ แฝงอยู่ตามที่เราเลือก
- อัตราแลกเปลี่ยน: ค่าสอบมันเป็นดอลลาร์สหรัฐใช่ไหมครับ ตอนจ่ายเงินจริงผ่านบัตรเครดิตเนี่ย มันก็จะมีการแปลงเป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารในวันนั้นๆ ด้วย ซึ่งอาจจะทำให้ยอดเงินบาทที่เราจ่ายจริงมันคลาดเคลื่อนไปจากที่เราคำนวณไว้ตอนแรกนิดหน่อย ก็ต้องเผื่อตรงนี้ไว้ด้วยครับ
ก็ประมาณนี้แหละครับสำหรับประสบการณ์การหาข้อมูลเรื่องค่าสอบ SAT ของผม หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมองหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่นะครับ การเตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่งครับ โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายนี่สำคัญเลย จะได้วางแผนการเงินถูก สู้ๆ ครับทุกคน!