วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์สอบ SAT ของตัวเองล้วนๆ เลยนะ คือแบบว่าลูกผีลูกคนมากกว่าจะผ่านมาได้ ใครที่กำลังจะไปสอบ หรือกำลังคิดจะสอบ ก็ลองมาฟังประสบการณ์บ้านๆ ของผมดู เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
เริ่มจากศูนย์เลยจริงๆ
ตอนแรกเลยนะ ก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ SAT มากหรอก รู้แค่ว่าต้องใช้ยื่นเข้ามหาลัยอินเตอร์ฯ หรือบางคณะภาคไทยก็ใช้ได้ ก็เลยเริ่มหาข้อมูลก่อนเลยว่ามันคืออะไร สอบอะไรบ้าง สมัครยังไง ไอ้ตอนสมัครนี่แหละ วุ่นวายพอตัว เข้าเว็บ College Board ก็จะงงๆ หน่อย ภาษาอังกฤษล้วนๆ แล้วก็ต้องเลือกศูนย์สอบอีก ซึ่งในไทยก็มีหลายที่นะ ตอนนั้นก็เลือกที่ใกล้บ้านสุด จ่ายตังค์ผ่านบัตรเครดิตไปเรียบร้อย ก็เป็นอันว่ามีที่นั่งสอบแล้ว

ช่วงเตรียมตัวนี่มันสาหัสเอาเรื่อง
พอสมัครเสร็จ ก็มาถึงช่วงเตรียมตัว อันนี้บอกเลยว่าส่วนตัวเน้นอ่านเอง ฝึกเองเยอะๆ ผมก็ไปหาซื้อหนังสือเตรียมสอบ SAT มาสองสามเล่ม พวกที่เป็น Official Guide กับพวกโจทย์รวมๆ น่ะ แล้วก็เริ่มตะลุยเลย
- วิชาเลข (Math): อันนี้มีทั้งส่วนที่ไม่ให้ใช้เครื่องคิดเลข กับส่วนที่ให้ใช้ได้ ตอนแรกก็คิดว่าหมูๆ นะ เพราะเป็นเลข ม.ปลาย แต่พอเจอโจทย์จริง บางทีมันก็มีพลิกแพลง ต้องแม่นสูตร แล้วก็ต้องเร็วด้วย ผมนี่ฝึกทำโจทย์วนไปเลย ผิดตรงไหนก็กลับไปทวนตรงนั้น
- วิชาการอ่าน (Reading): พาร์ทนี้หินสุดสำหรับผมเลย บทความยาวมาก แล้วศัพท์ก็ยาก ต้องอ่านจับใจความให้ได้ภายในเวลาที่จำกัด ฝึกแรกๆ นี่อ่านไม่ทันเลยจริงๆ ต้องพยายามหาเทคนิคการอ่านเร็ว สกิมมิ่ง สแกนนิ่งอะไรก็ว่าไป แล้วก็ต้องฝึกเดาศัพท์จากบริบทด้วย
- วิชาการเขียนและภาษา (Writing and Language): อันนี้จะเน้นแกรมมาร์ กับการเรียบเรียงประโยคให้ถูกต้อง สละสลวย ก็ต้องแม่นเรื่อง Tense, Subject-Verb Agreement, Punctuation ต่างๆ ซึ่งก็ต้องอาศัยการทำโจทย์เยอะๆ เหมือนกัน จะได้เห็นรูปแบบประโยคที่หลากหลาย
ผมใช้เวลาเตรียมตัวอยู่ประมาณ 3 เดือนเต็มๆ นะ คือแบบว่าหลังเลิกเรียน หรือวันหยุดนี่แทบไม่ได้ไปไหนเลย นั่งทำโจทย์ ทำวนไป จับเวลาเหมือนสอบจริง อันนี้สำคัญมาก เพราะถ้าไม่จับเวลา เราจะไม่รู้เลยว่าเราช้าไปหรือเปล่า แล้วก็ต้องหัดฝนกระดาษคำตอบด้วยนะ ให้มันชินมือ
วันจริงในสนามรบ
คืนก่อนสอบนี่พยายามนอนให้เร็วเลย ตื่นเช้ามาจะได้สดชื่น เตรียมของใช้ให้พร้อม ดินสอ 2B เหลาไปหลายๆ แท่ง ยางลบดีๆ บัตรประจำตัวประชาชน บัตรเข้าสอบ แล้วก็เครื่องคิดเลขที่อนุญาต (เช็ครุ่นให้ดีนะ บางรุ่นห้ามเอาเข้า) น้ำเปล่าขวดเล็กๆ กับขนมชิ้นเล็กๆ ไว้กินตอนพัก
ไปถึงสนามสอบก่อนเวลาพอสมควร คนเยอะมาก แต่ละคนก็ดูตั้งใจกันสุดๆ บรรยากาศมันจะตึงเครียดหน่อยๆ พอถึงเวลาเจ้าหน้าที่ก็จะเรียกเข้าห้องสอบ เช็คเอกสาร อธิบายกฎระเบียบต่างๆ ห้ามเอาโทรศัพท์มือถือเข้าเด็ดขาดนะ เขามีที่ให้ฝาก
พอเริ่มสอบนี่คือแบบ… โลกหยุดหมุนเลย มีแต่เรากับข้อสอบตรงหน้า เวลาเดินเร็วมากจริงๆ ต้องบริหารเวลาให้ดี พาร์ทไหนทำได้ก็รีบทำ พาร์ทไหนติดก็ข้ามไปก่อน อย่าไปจมอยู่กับข้อเดียวนานๆ ตอนสอบ Reading นี่เหงื่อตกเลย อ่านแทบไม่ทัน ส่วน Math ก็ต้องรอบคอบ อย่าสะเพร่า มีพักเบรกสั้นๆ ก็รีบไปเข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำ กินขนมให้ไว
หลังสอบและรอผล
พอสอบเสร็จนี่โล่งสุดๆ เหมือนยกภูเขาออกจากอก แต่ก็ยังต้องมารอลุ้นคะแนนอีกประมาณ 2-3 สัปดาห์ ช่วงรอนี่ก็ใจตุ้มๆ ต่อมๆ นะ พอคะแนนออก ก็เข้าไปเช็คในเว็บ College Board นั่นแหละ ของผมคะแนนก็ออกมาแบบ… ก็โอเค พอใจในระดับนึง อาจจะไม่ได้ดีเลิศเลอเพอร์เฟค แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับที่พยายามไป
สรุปคือ การสอบ SAT นี่มันต้องใช้ทั้งความพยายาม ความอดทน แล้วก็การวางแผนที่ดี ใครกำลังจะสอบก็สู้ๆ นะครับ เตรียมตัวให้พร้อม ทำให้เต็มที่ ผลจะเป็นยังไงก็ค่อยว่ากัน อย่างน้อยเราก็ได้ทำเต็มที่แล้วล่ะ!