อ่าห์ พูดถึงเรื่องสอบ TOEFL นี่นะ มันเป็นอะไรที่แบบ…ไม่อยากจะจำเลยจริงๆ แต่ก็นั่นแหละ ประสบการณ์ตรงที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง
ทำไมจู่ๆ ถึงต้องไปสอบ?
เรื่องของเรื่องก็คือตอนนั้นมันมีเหตุจำเป็นจริงๆ ผมเองก็ไม่ได้อยากจะไปนั่งหัวฟูสอบอะไรแบบนี้หรอกนะ แต่ด้วยความที่อยากจะไปเรียนต่อเมืองนอกเมืองนาเขาสักหน่อย ไอ้เจ้าคะแนน TOEFL นี่แหละคือใบเบิกทางด่านแรกเลย ไม่สอบก็คือจบ อดไปตามระเบียบ ก็เลยต้องกัดฟันสู้กันสักตั้ง

ช่วงเตรียมตัว…นรกดีๆ นี่เอง
พอตัดสินใจว่าจะสอบแน่ๆ เท่านั้นแหละ ผมก็เริ่มเลย ไปกว้านซื้อหนังสือมาเต็มบ้าน ทั้งตำรา ทั้งข้อสอบเก่า กองเป็นภูเขาเลากาเลยครับ เปิดอ่านไปก็งงไป ศัพท์แสงอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด แรกๆ ก็ท้อนะ เอาจริงๆ
- Reading: อันนี้พอถูไถไปได้บ้าง อาศัยว่าชอบอ่านนู่นนี่นั่นอยู่แล้ว แต่ศัพท์เฉพาะทางบางทีก็ทำเอาเหวอไปเหมือนกัน
- Listening: แรกๆ นี่ฟังไม่ทันเลยครับ เขาพูดอะไรกันก็ไม่รู้ รัวเป็นปืนกล ต้องเปิดซ้ำไปซ้ำมา ฝึกฟังทุกวัน จากฟังไม่รู้เรื่องก็เริ่มจับใจความได้บ้าง
- Speaking: ไอ้พาร์ทนี้แหละตัวปัญหาเลยสำหรับผม! ไม่ใช่แค่พูดนะ แต่ต้องพูดกับคอมพิวเตอร์! มันจะเขินๆ หน่อยอะนะ แล้วไหนจะต้องคุมเวลา สรุปประเด็นอีก เขาบอกว่าเทคนิคคือให้พูดถึงใจความสำคัญไปเลย ไม่ต้องเกริ่นเยอะ ผมก็พยายามนะ แต่บางทีมันก็ตื่นเต้นจนลิ้นพันกัน พูดไปก็อายตัวเองไป
- Writing: อันนี้ก็ต้องฝึกเขียนเยอะๆ ให้มันเป็นโครงสร้าง มีเหตุมีผล บางทีเขียนเพลิน ออกทะเลไปเลยก็มี ต้องคอยดึงตัวเองกลับมา
ผมนั่งทำข้อสอบเก่าวนไปครับ วันละหลายชั่วโมง ทำจนเบลอไปหมด บางวันก็ท้อจนอยากจะปาทุกอย่างทิ้ง แต่พอนึกถึงเป้าหมายก็ต้องฮึดสู้ต่อ ส่วนเรื่องคะแนนเต็มอะไรนั่นน่ะเหรอครับ…ฝันไปเถอะ! ผมเห็นเขาว่ากันว่าคนทั่วไปที่สอบก็ได้กันราวๆ 500 คะแนนขึ้นไป ผมก็ไม่ได้หวังสูงอะไรขนาดนั้น แค่ผ่านเกณฑ์ที่เขาต้องการก็พอใจแล้ว
ถึงวันลงสนามจริง
วันสอบจริงนี่โคตรตื่นเต้นเลยครับ นอนก็ไม่ค่อยหลับ ไปถึงสนามสอบก็เจอคนเยอะแยะเต็มไปหมด แต่ละคนหน้าตาดูเคร่งเครียดกันทั้งนั้น บรรยากาศในห้องสอบนี่เงียบกริบ ได้ยินแต่เสียงคีย์บอร์ดกับเสียงคนถอนหายใจเป็นระยะๆ
ตอนทำข้อสอบนี่สติมาเต็มมาก พยายามทำทุกพาร์ทให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไอ้พาร์ท Listening ก็ตั้งใจฟังสุดๆ ส่วน Speaking นี่ก็พยายามรวบรวมความกล้า พูดออกไปเท่าที่นึกได้ตอนนั้น ไม่รู้ว่าคอมพิวเตอร์มันจะเข้าใจที่ผมพูดไหมนะ ฮ่าๆ
พอสอบเสร็จนี่เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยครับ โล่งสุดๆ แต่ก็ยังไม่จบแค่นั้นนะสิ…
ลุ้นระทึก…รอผลสอบ
ช่วงรอผลสอบนี่มันบีบหัวใจจริงๆ ครับ เช็คอีเมลทุกวัน เข้าเว็บไปดูแล้วดูอีกว่าผลออกหรือยัง ใจมันตุ้มๆ ต่อมๆ กลัวก็กลัว ลุ้นก็ลุ้น
แล้ววันที่ผลสอบออก…ผมก็รีบคลิกเข้าไปดูเลยครับ ปรากฏว่าคะแนนออกมาก็…เอ่อ พอถูไถไปวัดไปวาได้ ไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรี แต่ก็ผ่านเกณฑ์ที่ตั้งใจไว้ ตอนนั้นคือดีใจมาก เหมือนปลดล็อกความสำเร็จไปอีกขั้นนึงเลย
สุดท้ายนี้ ก็อยากจะบอกว่าการสอบ TOEFL มันก็เป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งในชีวิตครับ เหนื่อยหน่อย ท้อหน่อย แต่ถ้าเราตั้งใจจริง ยังไงมันก็ผ่านไปได้แหละครับ สู้ๆ!