สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยกับเรื่องของ TOEFL เนี่ย มันคืออะไรกันแน่ แล้วผมผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะเข้าใจมันจริงๆ จังๆ
จุดเริ่มต้นของการผจญภัยกับ TOEFL
เรื่องมันเริ่มมาจากตอนที่ผมมีความฝันอยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศครับ ตอนนั้นก็ยังงงๆ อยู่เลยว่าต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง พอเริ่มหาข้อมูลเท่านั้นแหละ คำว่า “TOEFL” นี่โผล่มาเต็มไปหมด ตอนแรกก็คิดในใจ “อะไรวะเนี่ย สอบอะไรอีกแล้ว” ฮ่าๆๆ

ผมก็เลยเริ่มค้นคว้าอย่างจริงจังเลยครับ เข้าเว็บนู้นออกเว็บนี้ อ่านรีวิวคนนั้นคนนี้ จนพอจะจับใจความได้ว่า TOEFL เนี่ยมันย่อมาจาก Test of English as a Foreign Language พูดง่ายๆ ก็คือ ข้อสอบวัดความสามารถภาษาอังกฤษสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่นั่นเอง ส่วนใหญ่จะใช้ยื่นสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ หรือบางทีก็ใช้สมัครงานในบริษัทที่ต้องการคนใช้ภาษาอังกฤษได้
ลงลึกในรายละเอียด TOEFL มันสอบอะไรบ้าง?
พอรู้แล้วว่ามันคืออะไร ผมก็เริ่มเจาะลึกไปอีกว่ามันสอบอะไรบ้าง โครงสร้างข้อสอบเป็นยังไง จะได้เตรียมตัวถูกทาง ซึ่งหลักๆ แล้ว TOEFL iBT (Internet-based Test) ที่คนส่วนใหญ่สอบกันเนี่ย มันมี 4 ส่วนครับ:
- การอ่าน (Reading): ส่วนนี้จะให้อ่านบทความวิชาการยาวๆ แล้วตอบคำถาม คือศัพท์นี่มาเต็มมาก ตอนแรกผมอ่านไปปวดหัวไปเลยครับ ต้องฝึกเยอะจริงๆ
- การฟัง (Listening): จะได้ฟังบทสนทนาในชีวิตประจำวันของนักศึกษา หรือการบรรยายในห้องเรียน แล้วก็ตอบคำถาม สำเนียงนี่ก็หลากหลาย ต้องตั้งใจฟังดีๆ ไม่งั้นหลุด
- การพูด (Speaking): อันนี้ท้าทายสุดๆ สำหรับผมเลย คือจะมีคำถามให้อ่านหรือฟัง แล้วเราต้องอัดเสียงพูดตอบคำถามนั้นๆ มีทั้งแสดงความคิดเห็น สรุปใจความ คือต้องคิดเร็วพูดเร็ว แล้วก็ต้องให้มันเป็นธรรมชาติด้วย
- การเขียน (Writing): ส่วนนี้จะมีสองพาร์ท พาร์ทแรกคืออ่านบทความ ฟังเลคเชอร์ แล้วเขียนสรุปเปรียบเทียบ อีกพาร์ทคือเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อที่ให้มา ต้องมีโครงสร้าง มีเหตุผลสนับสนุน
ประสบการณ์การเตรียมตัวและลงสนามจริง
พอรู้รายละเอียดทั้งหมดแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือเตรียมตัวครับ ผมเริ่มจากหาซื้อหนังสือเตรียมสอบ TOEFL มาหลายเล่มเลยครับ ทั้งคำศัพท์ แกรมม่า แล้วก็แบบฝึกหัดเฉพาะส่วน ตอนนั้นห้องรกไปด้วยหนังสือเต็มไปหมด ฮ่าๆๆ
ผมตั้งตารางอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบทุกวันเลยครับ เริ่มจากทำทีละส่วนก่อน พอเริ่มคล่องก็ลองทำข้อสอบเต็มรูปแบบ จับเวลาเหมือนสอบจริง ช่วงแรกๆ นี่คะแนนออกมาท้อใจมากครับ โดยเฉพาะพาร์ทพูดกับเขียนนี่ รู้สึกว่ามันยากจัง แต่ก็พยายามไม่ยอมแพ้ครับ หาเทคนิคจากในเน็ตบ้าง ดูคลิปสอนบ้าง แล้วก็ฝึกซ้ำๆ
จำได้เลยว่าช่วงก่อนสอบนี่เครียดมาก กลัวทำไม่ได้ กลัวไม่ทัน แต่ก็ฮึดสู้ครับ พอถึงวันสอบจริง ตื่นเต้นสุดๆ เข้าห้องสอบไป เจอคอมพิวเตอร์ หูฟัง ไมโครโฟน บรรยากาศมันกดดันนิดๆ แต่ก็พยายามทำสมาธิ ทำไปทีละส่วนตามที่ซ้อมมา
ตอนสอบพาร์ทพูดนี่จำได้แม่นเลยครับ หัวใจเต้นตึ้กตั้ก กลัวพูดติดๆ ขัดๆ แต่ก็รวบรวมสติแล้วพูดออกไปให้ดีที่สุด พอสอบเสร็จนี่โล่งอกเลยครับ เหมือนยกภูเขาออกจากอก
สิ่งที่ได้เรียนรู้จาก TOEFL
หลังจากรอผลสอบอยู่พักใหญ่ๆ (ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทรมานใจมาก) ในที่สุดผลก็ออกมาครับ ตอนเห็นคะแนนครั้งแรกนี่ดีใจมาก หายเหนื่อยเลย ถึงแม้คะแนนอาจจะไม่ได้สูงเวอร์วังอะไร แต่ก็เพียงพอที่จะเอาไปใช้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
สรุปแล้วเนี่ย จากประสบการณ์ตรงของผม TOEFL มันไม่ใช่แค่ข้อสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษธรรมดาๆ นะครับ แต่มันคือบททดสอบความอดทน ความมุ่งมั่น และการวางแผนที่ดีด้วย มันสอนให้ผมรู้จักบริหารเวลา ฝึกฝนอย่างมีวินัย และที่สำคัญคือสอนให้ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ครับ
หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ TOEFL หรือกำลังสงสัยว่ามันคืออะไรอยู่นะครับ สู้ๆ ครับทุกคน!
