คำนวณ คะแนน toeic แบบละเอียด รู้จุดแข็งจุดอ่อนก่อนสอบจริง

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาเล่าประสบการณ์ตรงของผมเลย เกี่ยวกับการลองคำนวณคะแนน TOEIC ด้วยตัวเองนี่แหละครับ คือพอดีช่วงก่อนหน้านี้ผมก็มีเหตุให้ต้องไปข้องแวะกับการสอบนี้หน่อย เลยอยากรู้ว่าไอ้ที่เราทำๆ ไปเนี่ย มันจะออกมาเป็นคะแนนประมาณไหนกันแน่

เริ่มจากความสงสัยล้วนๆ

ตอนแรกเลยนะ ผมก็คิดง่ายๆ ว่า เอ๊ะ หรือว่ามันนับข้อถูกแล้วคูณคะแนนไปเลยหรือเปล่า แต่พอไปลองค้นๆ ดู อ้าว ไม่ใช่แฮะ มันมีวิธีคิดที่ซับซ้อนกว่านั้นนิดหน่อยครับ คือคะแนน TOEIC เนี่ย มันจะแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ คือ ส่วนการฟัง (Listening Comprehension) กับ ส่วนการอ่าน (Reading Comprehension) ซึ่งแต่ละส่วนเนี่ย คะแนนเต็มมัน 495 คะแนน รวมกันสองส่วนก็เป็น 990 คะแนนเต็มอย่างที่เรารู้ๆ กัน

ลงมือค้นคว้าหาวิธี

ผมก็เริ่มจากการไปเสิร์ชหาข้อมูลเลยครับว่าเค้าคิดคะแนนกันยังไง จนไปเจอว่า เค้าจะดูจากจำนวนข้อที่เราตอบถูกในแต่ละพาร์ทก่อน หรือที่เรียกว่า “คะแนนดิบ” (Raw Score) นั่นเองครับ อย่างพาร์ทฟังมี 100 ข้อ เราถูกกี่ข้อ พาร์ทอ่านมี 100 ข้อ เราถูกกี่ข้อ จากนั้นเนี่ยแหละครับ ถึงจะเอาจำนวนข้อที่ถูกของแต่ละพาร์ท ไปเทียบกับตารางแปลงคะแนน เพื่อให้ได้ออกมาเป็น “คะแนนจริง” (Scaled Score) ของแต่ละส่วน

ไอ้เจ้าตารางแปลงคะแนนนี่แหละครับ ที่เป็นหัวใจสำคัญเลย ซึ่งผมก็ไปเจอมาหลายแบบเหมือนกันนะ บางอันก็ละเอียดหน่อย บางอันก็เป็นแบบคร่าวๆ แต่หลักการมันจะคล้ายๆ กันคือ จำนวนข้อที่ถูกเท่านี้ จะได้คะแนนประมาณเท่านี้

ขั้นตอนที่ผมลองคำนวณดู

เอาล่ะ พอเข้าใจหลักการคร่าวๆ แล้ว ผมก็ลองเอามาใช้กับตัวเองเลยครับ (หรือบางทีก็ช่วยเพื่อนคำนวณหลังทำข้อสอบจำลอง) ขั้นตอนก็ประมาณนี้ครับ

• อย่างแรกเลย: ต้องนับจำนวนข้อที่ตอบถูกในส่วนการฟังให้ได้ก่อน สมมติว่าผมทำข้อสอบจำลองชุดนึง แล้วนับดูว่าพาร์ทฟัง ผมตอบถูกไป 75 ข้อ จาก 100 ข้อ ก็จดเอาไว้
• อย่างที่สอง: ทำเหมือนเดิมกับส่วนการอ่านครับ นับว่าตอบถูกไปกี่ข้อ สมมติว่าพาร์ทอ่าน ผมทำได้ 80 ข้อ จาก 100 ข้อ ก็จดไว้เช่นกัน
• อย่างที่สาม: ทีนี้ก็เอาจำนวนข้อที่ถูกของแต่ละส่วน ไปเทียบกับตารางแปลงคะแนนที่ผมหามาได้ครับ ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่าตารางมันอาจจะมีหลายเวอร์ชันหน่อยนะ ผมก็พยายามเลือกอันที่ดูน่าเชื่อถือ หรือบางทีก็ดูจากหลายๆ อันประกอบกันเพื่อหาค่าเฉลี่ยๆ เอา
  • จาก 75 ข้อที่ถูกในส่วนฟัง พอไปเทียบตาราง (สมมตินะครับ) อาจจะได้คะแนนออกมาประมาณ 380 คะแนน
  • ส่วน 80 ข้อที่ถูกในส่วนการอ่าน พอไปเทียบตาราง อาจจะได้คะแนนออกมาประมาณ 400 คะแนน
• สุดท้าย: ก็ง่ายเลยครับ เอาคะแนนจริงของทั้งสองส่วนมารวมกัน จากตัวอย่างของผมก็คือ 380 (ฟัง) + 400 (อ่าน) = 780 คะแนน นี่ก็คือคะแนน TOEIC โดยประมาณที่ผมคำนวณได้ครับ

สิ่งที่ผมสังเกตเห็นและข้อควรระวัง

จากที่ผมลองทำดูหลายๆ ครั้งนะครับ มีข้อสังเกตนิดหน่อยที่อยากจะแชร์

ตารางแปลงคะแนนไม่ตายตัว: อย่างที่บอกไปครับ ตารางที่หาได้ตามอินเทอร์เน็ตมันมีหลายแหล่ง แล้วบางทีตัวเลขมันก็ไม่ตรงกันเป๊ะๆ ผมเข้าใจว่ามันอาจจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของข้อสอบแต่ละชุดด้วยแหละครับ ดังนั้น คะแนนที่คำนวณได้ มันเลยเป็นค่าประมาณการณ์ซะมากกว่า อย่าไปยึดติดว่าต้องเป๊ะๆ ตามนั้น

ดูเพื่อเป็นแนวทาง: ผมว่าการคำนวณคะแนนด้วยตัวเองแบบนี้ มันมีประโยชน์ตรงที่เราจะได้เห็นภาพรวมคร่าวๆ ว่าเราอ่อนตรงไหน ควรไปเน้นฝึกฝนส่วนไหนเพิ่ม อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย แต่ก็ไม่ควรเอาไปเปรียบเทียบกับคะแนนสอบจริงแบบจริงจังมากนัก เพราะปัจจัยตอนสอบจริงมันเยอะกว่า ทั้งความตื่นเต้น เวลาที่จำกัด หรือสภาพแวดล้อมต่างๆ

ความแม่นยำของจำนวนข้อที่ถูก: ตอนเราตรวจคำตอบเอง บางทีอาจจะมีตาลาย ตรวจผิดตรวจถูกบ้าง หรือบางข้อที่เราคิดว่าถูก มันอาจจะไม่ถูกจริงๆ ก็ได้ ตรงนี้ก็มีผลกับคะแนนดิบที่จะเอาไปคำนวณต่อเหมือนกันครับ

สรุปส่งท้าย

โดยรวมแล้ว การลองคำนวณคะแนน TOEIC ด้วยตัวเองเนี่ย ผมว่ามันก็เป็นกิจกรรมที่สนุกดีนะครับ แถมยังช่วยให้เราเข้าใจโครงสร้างการให้คะแนนมากขึ้นด้วย เอาไว้ประเมินตัวเองเบื้องต้นก่อนไปสอบจริง หรือหลังทำข้อสอบจำลอง ก็ถือว่ามีประโยชน์ไม่น้อยเลยครับ แต่อย่างที่บอก อย่าไปซีเรียสกับตัวเลขที่ได้มากเกินไป ใช้มันเป็นเครื่องมือในการพัฒนาตัวเองดีกว่าครับ

หวังว่าประสบการณ์ที่ผมเอามาแชร์วันนี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ TOEIC หรือคนที่สงสัยเรื่องการคิดคะแนนอยู่บ้างนะครับ ลองเอาไปปรับใช้กันดูได้เลยครับ!