ไอ้เรื่องแนวข้อสอบ TOEIC Reading เนี่ยนะ ตอนแรกผมก็มองข้ามๆ ไป คิดว่าอ่านภาษาอังกฤษออกก็น่าจะสบายๆ แต่พอไปลองทำจริงเท่านั้นแหละ โอ้โห… มันไม่ง่ายเหมือนที่คิดไว้เลยครับพี่น้อง
ช่วงแรกๆ ที่ผมเริ่มเตรียมตัวนี่คือมั่วซั่วมากครับ บอกตามตรงเลย ผมพยายามหาซื้อหนังสือมาอ่านเยอะแยะไปหมด หลายสำนักมาก กองเต็มโต๊ะไปหมด แต่ก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก รู้สึกเหมือนยิ่งทำยิ่งงง คะแนนก็ไม่ขยับไปไหนเลย จนเริ่มท้อใจนิดๆ แล้วนะตอนนั้น คิดในใจว่าสงสัยเราจะไม่ถูกกับมันซะแล้วมั้ง
จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงนี้แหละครับ…การลงมือทำจริงจังกับแนวข้อสอบ
ผมเริ่มเปลี่ยนวิธีการ จากที่ตะบี้ตะบันทำโจทย์อย่างเดียวโดยไม่ดูอะไรเลย ผมหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า “แนวข้อสอบ” มากขึ้น คือไม่ใช่แค่หาข้อสอบเก่าๆ หรือชุดข้อสอบจำลองมาทำนะ แต่ต้องลงลึกไปถึงการวิเคราะห์มันด้วย ผมเริ่มจาก:
- หาแนวข้อสอบที่หลากหลาย: ผมเริ่มจากการเสาะหาแนวข้อสอบจากหลายๆ แหล่งเลยครับ ทั้งที่เขาแชร์ๆ กันในเน็ต (ต้องดูดีๆ หน่อยนะ บางทีก็ไม่ตรง) หรือหนังสือรวมข้อสอบที่มีเฉลยละเอียดๆ หน่อย อันนี้สำคัญมาก
- เริ่มจับเวลาจริงจังทุกครั้ง: อันนี้ผมว่าโคตรสำคัญเลย ผมซื้อนาฬิกาจับเวลาแบบถูกๆ มาอันนึงเลยครับ พอจะเริ่มทำส่วน Reading ปุ๊บ กดเวลาทันที พยายามทำให้ทันใน 75 นาทีให้ได้ แรกๆ ก็ไม่ทันหรอกครับ ขาดไปตั้งเยอะ บางทีทำเสร็จก่อนเวลาแต่ผิดบานเลยก็มี แต่พอทำไปเรื่อยๆ มันเริ่มชินมือ ชินตา และเริ่มบริหารเวลาได้ดีขึ้นเอง
- วิเคราะห์ข้อผิดพลาดแบบโคตรละเอียด: ทุกครั้งที่ทำข้อสอบชุดนึงเสร็จ ผมไม่ได้ดูแค่ว่าถูกกี่ข้อ ผิดกี่ข้อ แต่ผมจะมานั่งไล่ดูเลยว่าข้อที่ผิดเนี่ย ผิดเพราะอะไร เราอ่านไม่เข้าใจเอง? โดนตัวเลือกมันหลอก? หรือว่าไม่รู้ศัพท์คำนั้นจริงๆ? ผมจดเป็นข้อๆ เลยนะว่าพลาดตรงไหน ครั้งหน้าจะได้ระวัง
- แบ่งประเภทคำถามและเนื้อหาที่เจอในข้อสอบ: ในส่วน Reading มันก็มีหลายส่วนใช่ไหมครับ ทั้ง Part 5 (Incomplete Sentences), Part 6 (Text Completion), แล้วก็ Part 7 (Reading Comprehension) ที่มีทั้งแบบบทความเดี่ยว บทความคู่ บทความสาม ผมจะสังเกตเลยว่าแต่ละส่วนมันเน้นอะไร คำถามแบบไหนออกบ่อย เนื้อหาประเภทไหน (อีเมล, ประกาศ, บทความ, โฆษณา) ชอบเอามาออก พอรู้แบบนี้ ผมก็ไปเน้นฝึกเฉพาะจุดที่ตัวเองยังอ่อน หรือหาศัพท์เฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาประเภทนั้นๆ เพิ่ม
ผมจำได้แม่นเลยว่าช่วงแรกๆ นะ ไอ้พวกคำถามที่มันมีตัวเลือกคล้ายๆ กันหมด หรือบทความยาวๆ ที่มีหลายย่อหน้าเนี่ย ผมพลาดบ่อยมาก อ่านแล้วตาลาย สับสนไปหมด บางทีอ่านเข้าใจนะ แต่ดันไปเลือกคำตอบผิดเพราะมันมีตัวลวงที่เกือบจะใช่ แต่พอใช้วิธีข้างบน คือค่อยๆ ทำ ค่อยๆ วิเคราะห์ สังเกตแพทเทิร์นของมัน มันก็เริ่มดีขึ้นครับ เริ่มมองเห็น “กับดัก” ที่ข้อสอบชอบวางไว้ให้เราเดินไปเหยียบ
อย่างเช่นพวกคำศัพท์ที่ความหมายใกล้เคียงกันมากๆ เนี่ย ถ้าเราไม่แม่นจริง ไม่เข้าใจบริบทของประโยค โดนหลอกง่ายๆ เลยครับ หรือบางทีคำถามมันไม่ได้ถามข้อมูลที่อยู่ในบทความตรงๆ แต่ต้องอาศัยการตีความ หรือการอนุมานจากเนื้อเรื่อง ซึ่งตรงนี้แหละที่การทำแนวข้อสอบเยอะๆ มันช่วยได้มาก เพราะเราจะเริ่มคุ้นเคยกับสไตล์คำถามและวิธีที่เขาใช้ในการทดสอบความเข้าใจของเรา
สุดท้ายแล้วนะครับ จากประสบการณ์ของผม การเตรียมตัวกับแนวข้อสอบ Reading TOEIC เนี่ย มันไม่ใช่แค่เรื่องของการท่องจำศัพท์หรือแกรมม่าอย่างเดียว แต่มันคือการฝึกฝน “ทักษะ” ในการอ่านจับใจความ การบริหารจัดการเวลาที่มีจำกัด และที่สำคัญคือการวิเคราะห์โจทย์อย่างมีสติ ซึ่งทั้งหมดนี้มันต้องใช้เวลา ความอดทน และความสม่ำเสมอในการฝึกฝนจริงๆ ครับ พอเราจับทางมันได้แล้ว ฝึกฝนจนชำนาญแล้ว คะแนนมันก็ดีดขึ้นมาเองแบบที่เราเองก็ยังแปลกใจเลยล่ะครับ ลองเอาวิธีที่ผมแชร์ไปปรับใช้ดูนะครับ ผมว่ามันช่วยได้เยอะจริงๆ ไม่เสียหายแน่นอน สู้ๆ ครับทุกคน!