ไอ้เรื่องตารางโทอิคนี่นะ ตอนแรกผมก็คิดว่าหมูๆ ใครๆ ก็ทำได้ แต่พอเอาเข้าจริง โอ้โห… ปวดหัวไม่ใช่เล่นเลยครับ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปเลย กะว่าไปวัดดวงเอา ผลออกมาก็อย่างที่คิดครับ เละ!
คือผมก็เหมือนหลายๆ คนแหละครับ ที่คิดว่าเออ เดี๋ยวค่อยอ่าน เดี๋ยวค่อยเตรียมตัว พอใกล้ๆ วันสอบเท่านั้นแหละ ไฟลนก้นเลยทีนี้ จะเริ่มตรงไหนก่อนดี เนื้อหาก็เยอะแยะไปหมด เปิดหนังสือมาก็เจอแต่แกรมม่า คำศัพท์ พาร์ทฟัง พาร์ทอ่าน โอ๊ย มึนตึ้บ!

แล้วผมเริ่มยังไง?
หลังจากเฟลไปรอบนึง ผมก็มานั่งคิดจริงจังละ ว่าจะปล่อยเบลอแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว อย่างแรกเลยคือต้องรู้เขารู้เราก่อน ผมไปหาข้อมูลเลยว่าข้อสอบ TOEIC มันมีอะไรบ้าง แบ่งเป็นพาร์ทไหน เวลากี่นาที คะแนนแต่ละส่วนเป็นยังไง คือต้องเข้าใจโครงสร้างมันก่อน ไม่งั้นก็เหมือนคนตาบอดคลำช้าง
จากนั้นก็มาดูตัวเองครับ ว่าเราอ่อนตรงไหน เก่งตรงไหน เวลาว่างมีตอนไหนบ้าง อันนี้สำคัญมากนะ เพราะตารางที่ดีมันต้องเหมาะกับชีวิตเราด้วย ไม่ใช่ตารางสวยหรูแต่ทำไม่ได้จริง ผมก็ลิสต์ออกมาเลยครับ
- จุดอ่อน: แกรมม่าเลยครับ ไม่ค่อยแม่น กับพาร์ทอ่านที่ต้องทำแข่งกับเวลา
- จุดแข็ง: พาร์ทฟังพอไปได้หน่อย คำศัพท์ก็พอมีในหัวบ้าง
- เวลาว่าง: หลังเลิกงานวันธรรมดาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วก็วันเสาร์-อาทิตย์เต็มวัน (แต่ก็อยากมีเวลาพักผ่อนบ้างอะนะ)
ลงมือจัดตารางจริงจัง
พอได้ข้อมูลครบ ผมก็เริ่มลองร่างตารางดูครับ ตอนแรกก็มั่วๆ ไปก่อน เหมือนจับแพะชนแกะเลย ลองผิดลองถูกไปเรื่อย
ช่วงแรกๆ ที่ลองทำ:
- วันจันทร์-ศุกร์: หลังเลิกงาน ผมพยายามจะแบ่งเวลาให้ได้วันละ 1-2 ชั่วโมง เน้นไปที่การทบทวนแกรมม่า ทำแบบฝึกหัดพาร์ทอ่าน แล้วก็ฟังคลิปสั้นๆ ภาษาอังกฤษบ้าง
- วันเสาร์: อันนี้จัดหนักหน่อย กะว่าจะทบทวนเนื้อหาที่เรียนมาทั้งอาทิตย์ แล้วก็ลองทำข้อสอบเก่าซักชุดนึง
- วันอาทิตย์: กะว่าเป็นวันพักผ่อน หรือถ้ามีแรงก็อาจจะท่องศัพท์เบาๆ
จะบอกว่ามันไม่ง่ายเลยครับ บางวันกลับมาจากทำงานก็เหนื่อยแล้ว อยากจะนอนอย่างเดียว บางทีก็มีนัดเพื่อนบ้างอะไรบ้าง ตารางที่วางไว้ก็พังไม่เป็นท่าเลยครับ
ปรับเปลี่ยนจนเจอที่ใช่ (สำหรับผมนะ)
หลังจากลองผิดลองถูกอยู่พักใหญ่ ผมก็เริ่มจับทางได้ครับ ว่าแบบไหนมันเวิร์คกับผมจริงๆ
ตารางที่ค่อนข้างลงตัวของผม:
- ทุกวัน (จันทร์-อาทิตย์): ผมจะพยายามฟัง Podcast หรือข่าวภาษาอังกฤษตอนเดินทางไปทำงาน หรือตอนทำกับข้าว ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง มันเหมือนได้ซึมซับไปเรื่อยๆ ไม่ต้องตั้งใจมาก
- วันจันทร์ พุธ ศุกร์: หลังเลิกงาน ผมจะให้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เน้นทำแบบฝึกหัดแกรมม่า กับพาร์ทอ่านสลับกันไป แล้วก็มีท่องศัพท์ใหม่ๆ ที่เจอวันละ 10-15 คำ
- วันอังคาร พฤหัสบดี: จะเป็นวันพักจากการอ่านหนักๆ หน่อย อาจจะดูหนัง soundtrack หรือซีรีส์ภาษาอังกฤษแทน ถือเป็นการผ่อนคลาย แต่ก็ยังได้ฝึกภาษาอยู่
- วันเสาร์: อันนี้สำคัญมาก ผมจะจับเวลาทำข้อสอบเสมือนจริง 1 ชุดเต็มๆ เลยครับ เพื่อให้ชินกับเวลาและความกดดัน พอทำเสร็จก็จะมาตรวจดูว่าผิดตรงไหนเยอะ แล้วก็จดไว้
- วันอาทิตย์: ช่วงเช้าจะทบทวนข้อที่ผิดจากวันเสาร์ หรืออ่านเนื้อหาที่เรายังไม่แม่น ส่วนช่วงบ่ายก็พักผ่อนเต็มที่ ให้สมองได้พักบ้าง
ผมพบว่าการทำอะไรซ้ำๆ สม่ำเสมอเนี่ย มันเห็นผลกว่าการอัดทำทีเดียวเยอะๆ นะครับ แล้วก็ไม่ต้องเป๊ะทุกวันก็ได้ มีวันพักบ้าง วันขี้เกียจบ้างก็ไม่เป็นไร แต่อย่าหลุดนานจนเกินไป
สิ่งที่ค้นพบระหว่างทาง (และอยากแชร์)
จะบอกให้นะครับ การทำตารางโทอิคมันไม่ใช่แค่การเขียนๆ ว่าจะทำอะไรตอนไหน แต่มันคือการทดลองกับตัวเองล้วนๆ ผมเองก็ปรับเปลี่ยนตารางไปหลายรอบมากกว่าจะลงตัว บางทีวางแผนไว้ดิบดี แต่พอทำจริง เอ้า! เวลานี้ไม่เวิร์คแฮะ ก็ต้องปรับกันไป

ที่สำคัญคือ ความสม่ำเสมอ ครับ ทำน้อยๆ แต่ทำทุกวัน ดีกว่าอัดทีเดียวแล้วหายไปเลย แล้วก็อย่าลืมให้รางวัลตัวเองบ้าง เวลาทำได้ตามเป้าเล็กๆ น้อยๆ มันเป็นกำลังใจที่ดีเลยนะ
ผมจำได้เลยว่าช่วงแรกๆ นี่โคตรท้อ มองไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์เลย แต่พอเริ่มจับทางได้ เริ่มเห็นคะแนนตัวเองขยับขึ้นนิดๆ หน่อยๆ มันก็มีแรงฮึดขึ้นมาเอง ไอ้ตารางเนี่ย มันเหมือนเป็นแผนที่ให้เราเดินตามมากกว่า ไม่ใช่โซ่ตรวนนะ
สุดท้ายนี้ ตารางของใครของมันครับ ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ลองเอาวิธีของผมไปปรับใช้ดูได้ ไม่จำเป็นต้องเหมือนเป๊ะๆ ขอแค่เป็นตารางที่เราทำได้จริงและมีความสุขกับมันก็พอแล้วครับ สู้ๆ ครับทุกคน!