คัดมาแล้ว แอ พ toeic น่าใช้ เตรียมสอบโทอิคได้ทุกที่ทุกเวลาสะดวกมาก

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเลยเกี่ยวกับเรื่องการหาแอพสำหรับเตรียมตัวสอบ TOEIC นี่แหละครับ คือเรื่องของเรื่องเนี่ย ผมมีความจำเป็นต้องใช้คะแนน TOEIC ไปยื่นงาน ก็เลยต้องฟิตตัวเองหน่อย

จุดเริ่มต้นการผจญภัยในโลกแอพ TOEIC

ตอนแรกเลยนะครับ ผมก็เหมือนคนอื่นๆ ทั่วไปเลย คือเข้าไปใน App Store กับ Play Store แล้วก็พิมพ์คำว่า “TOEIC” โอ้โห…เท่านั้นแหละครับ แอพเด้งขึ้นมาเป็นร้อยๆ คือตาลายมาก ไม่รู้จะเริ่มจากอันไหนดี มีทั้งแบบฟรี แบบเสียเงิน แบบมีโฆษณาคั่นเยอะๆ บางแอพหน้าตาสวยงามน่าใช้ บางแอพก็ดูเก่าๆ หน่อย

การลองผิดลองถูก

ผมก็เริ่มจากการโหลดแอพฟรีๆ มาลองก่อนเลยครับ โหลดมาทีละ 3-4 แอพ ลองใช้ดูสักพัก อันไหนไม่เวิร์คก็ลบทิ้งไปเลยครับ ที่ว่าไม่เวิร์คของผมคือ

• โฆษณาเยอะเกินไปจนน่ารำคาญ กดผิดกดถูกไปโดนโฆษณาตลอด
• เนื้อหาดูไม่ค่อยอัปเดต หรือบางทีเจอข้อสอบเก่ามากๆ
• Interface ใช้งานยาก ปุ่มเล็ก มองไม่ชัด ทำแล้วหงุดหงิด
• ไม่มีเฉลยละเอียด หรือเฉลยแล้วก็ยังงงๆ ไม่เข้าใจ

ก็มีหลายแอพนะครับที่โหลดมาแล้วก็ลบทิ้งไปในวันเดียวกันเลย เสียเวลาโหลดนิดหน่อยแต่ก็ดีกว่าทนใช้ไปแล้วไม่ได้อะไร

เริ่มจับทางได้ว่าจะหาแอพแบบไหน

หลังจากลองผิดลองถูกอยู่พักใหญ่ ผมก็เริ่มจับทางได้ว่าจริงๆ แล้วตัวเองต้องการอะไรจากแอพพวกนี้บ้าง หลักๆ เลยคือ

• ต้องมีข้อสอบให้ฝึกทำเยอะๆ: อันนี้สำคัญมาก ยิ่งทำเยอะยิ่งชินสนาม
• คำศัพท์: ต้องมีส่วนที่ช่วยท่องศัพท์ หรือมีคลังคำศัพท์ที่พบบ่อยๆ ใน TOEIC
• แกรมม่า: อยากได้แอพที่มีสรุปแกรมม่าน่าสนใจ หรือมีแบบฝึกหัดแกรมม่าแยกส่วน
• การฟัง (Listening): อันนี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน ต้องมีไฟล์เสียงชัดเจน และมี Script ให้อ่านตามได้
• การจับเวลา: ถ้ามีฟังก์ชันจับเวลาเหมือนสอบจริงจะดีมาก จะได้ฝึกบริหารเวลาไปในตัว
• เฉลยละเอียด: ไม่ใช่แค่บอกว่าข้อไหนถูกผิด แต่อธิบายด้วยว่าทำไมถึงถูก ทำไมถึงผิด

พอเรามีเกณฑ์ในใจแล้ว การเลือกแอพมันก็ง่ายขึ้นครับ ไม่ต้องโหลดมาลองมั่วๆ อีกต่อไป ผมก็จะอ่านรีวิวประกอบด้วย ดูว่าคนอื่นเค้าว่ายังไงกันบ้างกับแอพนั้นๆ

แอพที่ใช้จริงและวิธีการฝึกของผม (แบบบ้านๆ)

สุดท้ายแล้ว ผมก็ไม่ได้ยึดติดกับแอพเดียวครับ ผมใช้หลายๆ แอพประกอบกันไปเลย อันไหนเด่นเรื่องไหนก็ใช้อันนั้น

แอพสำหรับทำข้อสอบชุดใหญ่: ผมหาแอพที่มีข้อสอบ Mock Test หลายๆ ชุดหน่อยครับ พยายามเลือกอันที่หน้าตาคล้ายๆ ข้อสอบจริง มีจับเวลาด้วย ผมจะตั้งใจทำเหมือนสอบจริงเลยครับ พอทำเสร็จก็จะมาดูคะแนน แล้วก็ดูเฉลยละเอียดว่าผิดตรงไหนบ้าง ทำไมถึงผิด พยายามทำความเข้าใจจุดที่ตัวเองพลาด

แอพสำหรับฝึกคำศัพท์: ผมหาแอพที่มี Flashcards หรือเกมคำศัพท์สนุกๆ ครับ มันช่วยให้จำได้ดีขึ้นกว่าการท่องเฉยๆ ผมจะพยายามท่องศัพท์ใหม่ๆ ทุกวัน ตั้งเป้าไว้เลยว่าวันละกี่คำ พอเจอศัพท์ที่ไม่รู้ในข้อสอบก็จะจดไว้แล้วเอามาหาความหมายแล้วก็พยายามจำ

แอพสำหรับฝึกแกรมม่า: อันนี้ผมเลือกแอพที่มีสรุปแกรมม่าสั้นๆ เข้าใจง่าย หรือมีแบบฝึกหัดแยกเป็นเรื่องๆ ไปเลย เช่น Tense, Part of Speech อะไรพวกนี้ครับ ก็ทำไปทีละเรื่อง ทำซ้ำๆ จนกว่าจะเข้าใจ

ส่วนการฟัง: นอกจากในแอพข้อสอบแล้ว บางทีผมก็ไปหาคลิปฝึกฟังใน YouTube บ้างครับ มีเยอะแยะเลย พวกบทสนทนาสั้นๆ หรือข่าวภาษาอังกฤษง่ายๆ พยายามฟังให้ชินสำเนียงครับ

กิจวัตรประจำวันของผมคือ:

• ตอนเช้าๆ หรือตอนเย็นหลังเลิกงาน จะพยายามทำข้อสอบพาร์ทใดพาร์ทหนึ่ง หรือถ้ามีเวลาก็ทำทั้งชุด
• ระหว่างวันเดินทาง หรือตอนพักเที่ยง ก็จะเปิดแอพท่องศัพท์ หรือทำแบบฝึกหัดแกรมม่าสั้นๆ
• ก่อนนอนก็อาจจะฝึกฟังนิดหน่อย

แรกๆ ก็ท้อนะครับ คะแนนไม่ค่อยขึ้นเลย บางทีทำแล้วรู้สึกว่ายากจัง แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่าต้องสู้ต่อ พอทำไปเรื่อยๆ มันเริ่มจับทางได้ เริ่มเห็นแล้วว่าเราพลาดตรงไหนบ่อยๆ ก็ไปเน้นตรงนั้นเป็นพิเศษ

ผลลัพธ์และข้อคิดที่ได้

หลังจากที่ผมใช้เวลาเตรียมตัวด้วยแอพพวกนี้อยู่ประมาณเดือนกว่าๆ ก็ไปสอบครับ ผลที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจเลยครับ คะแนนดีขึ้นกว่าตอนที่เคยสอบครั้งก่อนเยอะเลย

ที่มาเล่าให้ฟังเนี่ย ไม่ได้จะบอกว่าวิธีของผมดีที่สุดนะครับ หรือแอพที่ผมเลือกมันเทพที่สุด แต่แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ว่าการลองผิดลองถูกมันเป็นเรื่องปกติครับในการหาเครื่องมือที่เหมาะกับเรา สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าเราต้องการอะไร ต้องมีวินัยในการฝึกฝน แล้วก็อย่าท้อถอยครับ หาแอพที่ “คลิก” กับเราให้เจอ แล้วก็ลุยเลยครับ สู้ๆ ครับทุกคน!