สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ไปสนามสอบ TOEIC มาสดๆ ร้อนๆ เลย คือเรื่องของเรื่องเนี่ย มันเริ่มจากความอยากลองของตัวเองล้วนๆ บวกกับคนรอบข้างก็พูดกันจังว่าเออ คะแนนโทอิคเอาไปทำนั่นทำนี่ได้เยอะแยะ
ตัดสินใจไปสอบ
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกครับ แค่รู้สึกว่า เออ ภาษาอังกฤษเราก็น่าจะพอถูไถได้บ้างนะ ไม่ได้ใช้อะไรจริงจังมานานละ ลองไปวัดระดับตัวเองดูหน่อยก็ไม่เสียหาย พอคิดได้ดังนั้นปุ๊บ ก็เลยลองหาข้อมูลดูว่าต้องสมัครยังไง สอบที่ไหน ยากง่ายแค่ไหน

เจอข้อมูลเยอะแยะไปหมด บางคนก็บอกหมูๆ บางคนก็บอกยากชิบเป๋ง เอาล่ะสิ กูก็เริ่มลังเลนิดๆ แต่เอาวะ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลองดูซักตั้งจะเป็นไรไปวะ อย่างน้อยถ้าคะแนนเน่าก็จะได้รู้ตัว ฮ่าๆๆ
การเตรียมตัว (ที่ไม่ค่อยจะได้เตรียม)
พูดถึงเรื่องเตรียมตัวนี่โคตรจะเรียลเลยครับ คือไม่ได้เตรียมอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยจริงๆ มีหนังสืออยู่เล่มนึง เพื่อนให้มานานละ เปิดๆ ไปได้สองสามหน้าก็ปิด รู้สึกว่ามันไม่ใช่แนว ตัวหนังสือเยอะเกิ๊น อ่านแล้วง่วงนอน เลยตัดสินใจว่า เออ ไปวัดดวงเอาดาบหน้าแล้วกันวะ อาศัยบุญเก่าที่เคยเรียนมาล้วนๆ คิดในใจว่า “เอาน่า มันก็ภาษาอังกฤษแหละวะ จะยากซักแค่ไหนเชียว”
วันก่อนสอบก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษเลยครับ ใช้ชีวิตปกติ กินหมูกระทะ ดูซีรีส์ นอนดึกตื่นสายตามสไตล์ กะว่าไปแบบชิลๆ ไม่กดดันตัวเอง (จริงๆ คือขี้เกียจนั่นแหละ ฮ่าๆ)
วันสอบจริง ณ สนามสอบ
ตื่นเช้ามาแบบงัวเงียเล็กน้อย แต่ก็พยายามทำตัวให้สดชื่น ไปถึงสนามสอบก็โอ้โห คนเยอะกว่าที่คิด ทุกคนดูมีออร่าความตั้งใจแผ่ซ่านออกมา บางคนนี่อุปกรณ์ครบมือ ดินสอ ยางลบ นาฬิกาจับเวลา ส่วนผมน่ะเหรอ? มีดินสอไม้เหลาแล้วแท่งเดียว ยืมเพื่อนมาอีกต่างหาก เดินเข้าไปในห้องสอบ บรรยากาศมันก็จะตึงๆ หน่อย ทุกคนเงียบกริบ รอเวลา
เจ้าหน้าที่ก็อธิบายกฎระเบียบต่างๆ ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง พอถึงเวลาเริ่มสอบจริงเท่านั้นแหละ ใจเต้นตึ้กตั้กเลยครับพี่น้อง
ตะลุยข้อสอบ Listening
พาร์ทฟังนี่เปิดมาตอนแรกๆ ก็พอไปได้นะ แต่พอเริ่มไปสักพักเท่านั้นแหละ สำเนียงมาหลากหลายเลยครับ บางอันก็พูดเร็วเกิ๊น ฟังแทบไม่ทัน บางอันก็เหมือนจะหลอกให้เรางง คำถามบางข้อก็กวนๆ ชวนให้สับสน ต้องตั้งสติมากๆ มีเผลอหลุดไปบ้างเหมือนกัน แอบคิดในใจ “เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรวะเนี่ย” แต่ก็ต้องดึงสติกลับมาทำข้อต่อไปให้ได้
ฝ่าดงข้อสอบ Reading
พอจบพาร์ทฟัง มาต่อพาร์ทอ่านนี่คือแบบ…เยอะมากกกก อ่านกันจนตาแฉะไปข้างนึงเลยครับ ทั้งบทความสั้น บทความยาว เติมคำในช่องว่าง คือมันต้องใช้สมาธิสูงมาก แล้วเวลาก็เดินไปเรื่อยๆ บีบหัวใจสุดๆ หลายข้อก็ต้องเดาแบบมีหลักการ (เหรอ?) เพราะทำไม่ทันจริงๆ บางทีอ่านโจทย์แล้วก็ยังงงๆ ว่ามันต้องการอะไรวะเนี่ย
ตอนท้ายๆ นี่คือแทบจะปล่อยจอยแล้วครับ กามั่วไปหลายข้อเหมือนกัน ยอมรับเลยว่าสมองล้าสุดๆ
หลังสอบเสร็จสิ้น
พอเสียงสัญญาณหมดเวลาดังขึ้นเท่านั้นแหละครับ โล่งแบบสุดๆ เหมือนยกภูเขาออกจากอก เดินออกมาจากห้องสอบแบบเบลอๆ มึนๆ สมองเหมือนโดนปั่นรวมกันยังไงยังงั้นเลย สิ่งแรกที่คิดคือ “หิวข้าววววว!”

ความรู้สึกตอนนั้นคือแบบ เออ จบไปซะทีนะไอ้โทอิคเนี่ย จะได้คะแนนเท่าไหร่ก็ช่างมันแล้ว ณ จุดนั้นคือขอพักก่อน
รอผล และวันที่ผลออก
หลังจากนั้นก็รอผลสอบครับ ตามกำหนดการก็ประมาณสองสามวันทำการมั้งถ้าจำไม่ผิด ช่วงรอก็มีแอบลุ้นนิดๆ นะ ว่าไอ้ที่ทำไปจะได้เรื่องได้ราวบ้างมั้ย พอถึงวันที่ผลออก ก็เข้าไปเช็คในระบบออนไลน์ ใจตุ้มๆ ต่อมๆ
พอเห็นคะแนนก็…อืมมมม ก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้จากความรู้สึกตอนทำข้อสอบนั่นแหละครับ ไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรี แต่ก็ไม่ได้แย่จนรับไม่ได้ ถือว่าโอเคสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้เตรียมตัวแบบผม ฮ่าๆ
บทสรุปและสิ่งที่อยากบอกต่อ
สรุปแล้ว การไปสอบ TOEIC ครั้งนี้ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ได้รู้ระดับภาษาอังกฤษของตัวเองแบบจริงๆ จังๆ ซะที สำหรับใครที่กำลังจะไปสอบ หรือลังเลอยู่ ผมว่าก็ลองดูครับ ไม่เสียหายอะไร
- ถ้ามีเวลาก็เตรียมตัวไปหน่อยก็ดีครับ อย่างน้อยก็ไปดูแนวข้อสอบบ้าง
- วันสอบพักผ่อนให้เพียงพอ อันนี้สำคัญจริง
- ตอนทำข้อสอบมีสติเข้าไว้ อย่าลนลาน
- สุดท้ายคือ อย่าไปเครียดกับมันมากครับ มันก็แค่การสอบแบบนึงเท่านั้นเอง
ส่วนตัวผมถ้ามีโอกาส หรือมีความจำเป็นต้องใช้คะแนนอีกในอนาคต ก็อาจจะไปสอบใหม่ครับ แต่คราวหน้าสัญญาว่าจะเตรียมตัวให้ดีกว่านี้หน่อยนึง (มั้งนะ ฮ่าๆ) ใครมีประสบการณ์สอบ TOEIC ยังไงก็มาแชร์กันได้นะครับ!