โอเค จัดไปเลย! นี่คือเรื่องราวการผจญภัย สมัคร เรียน toeic ของฉัน แบบฉบับบล็อกเกอร์สายลุย!
บันทึกการเดินทาง สมัคร เรียน toeic ฉบับคนจริง (ไม่ติงนัง!)
เฮ้ทุกคน! วันนี้มาแชร์ประสบการณ์จริง แบบไม่มีกั๊ก เรื่องการตัดสินใจ “สมัคร เรียน toeic” คือก่อนหน้านี้ชีวิตมันเคว้งคว้างมาก รู้สึกว่าต้องอัพสกิลภาษาอังกฤษด่วนๆ เพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน (และแอบหวังว่าจะได้เงินเดือนอัพด้วยนะ อิอิ)
เริ่มจากศูนย์…จริงๆ!
ยอมรับเลยว่าตอนแรกคือมืดแปดด้าน ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี เพื่อนๆ ก็แนะนำกันมาหลายที่มาก ทั้งเรียนออนไลน์ ตัวต่อตัว หรือไปเรียนที่สถาบันดังๆ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่า… “ฉันต้องลองผิดลองถูกเอง!”
สเต็ปแรก: สำรวจตัวเอง
วัดระดับ: ไปทำข้อสอบ TOEIC จำลองฟรีตามเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อดูว่าตัวเองอ่อนตรงไหน (ผลออกมาคือ…อ่อนทุกตรง! 555)
ตั้งเป้าหมาย: กำหนดคะแนนที่ต้องการให้ชัดเจน (เอาแบบสมเหตุสมผล ไม่ฝันเฟื่องเกินไป)
งบประมาณ: สำรวจกระเป๋าตังค์ตัวเองว่าพอจะจ่ายค่าคอร์สเรียนได้เท่าไหร่ (อันนี้สำคัญมาก!)
ตะลุยหาคอร์ส (ที่ใช่!)
หลังจากสำรวจตัวเองเสร็จ ก็เริ่มตะลุยหาคอร์สเรียนที่ตอบโจทย์ คือตอนแรกก็เล็งๆ คอร์สเรียนออนไลน์ไว้ เพราะมันสะดวกดี แต่พอคิดไปคิดมา รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนขี้เกียจ ถ้าไม่มีคนคอยกระตุ้น สงสัยจะเรียนไม่จบ เลยตัดสินใจเลือกเรียนที่สถาบันสอนภาษาอังกฤษแทน
ปัจจัยในการเลือกสถาบัน:
ชื่อเสียง: เลือกสถาบันที่มีคนแนะนำเยอะๆ และมีรีวิวดีๆ (แอบส่อง Pantip ด้วยนะ)
ราคา: เปรียบเทียบราคาของแต่ละสถาบัน (อย่าลืมดูโปรโมชั่นด้วย!)
ตารางเรียน: เลือกตารางเรียนที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง (อันนี้สำคัญมาก!)
อาจารย์: สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของอาจารย์ผู้สอน (ถ้าได้อาจารย์ที่เก่งและใจดี จะช่วยให้เราเรียนสนุกขึ้นเยอะ!)
สมัคร เรียน toeic อย่างเป็นทางการ!
หลังจากตัดสินใจได้แล้ว ก็รีบไปสมัครเรียนทันที! ตอนแรกก็แอบตื่นเต้นนะ กลัวว่าจะเรียนไม่ทันเพื่อน กลัวว่าจะทำข้อสอบไม่ได้ แต่พอได้เริ่มเรียนจริงๆ ก็รู้สึกว่า… “มันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด!”
เคล็ดลับการเรียน (ฉบับคนขี้เกียจ):
เข้าเรียนทุกครั้ง: อย่าขาดเรียน! เพราะอาจารย์จะสอนเทคนิคและเคล็ดลับต่างๆ ที่เราไม่สามารถหาได้จากในหนังสือ
ตั้งใจเรียนในห้อง: พยายามทำความเข้าใจเนื้อหาที่เรียนให้ได้มากที่สุด (ถ้าไม่เข้าใจตรงไหน ให้ถามอาจารย์ทันที!)
ทำการบ้านสม่ำเสมอ: อย่าขี้เกียจทำการบ้าน! เพราะการทำการบ้านจะช่วยให้เราทบทวนเนื้อหาที่เรียนไป และช่วยให้เราจำศัพท์ได้แม่นขึ้น
หาเพื่อนเรียน: การมีเพื่อนเรียนจะช่วยให้เรามีกำลังใจในการเรียน และช่วยให้เราแลกเปลี่ยนความรู้กันได้
พักผ่อนให้เพียงพอ: อย่าหักโหมจนเกินไป! เพราะการพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้สมองของเราทำงานได้ดีขึ้น
ผลลัพธ์ที่ได้ (เกินคาด!):
หลังจากเรียนจบและไปสอบ TOEIC ผลปรากฏว่า… คะแนนของฉันสูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้! (กรี๊ด!) คือตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แค่อยากได้คะแนนที่สามารถเอาไปยื่นสมัครงานได้ แต่พอได้คะแนนเยอะกว่าที่คิด ก็รู้สึกดีใจมากๆ
สรุป:
การตัดสินใจ “สมัคร เรียน toeic” เป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่ามากๆ เพราะมันช่วยให้ฉันพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของตัวเอง และช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ในชีวิต คือถ้าใครที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเรียนดีไหม? อยากจะบอกว่า… “อย่ารอช้า! รีบไปสมัครเรียนเลย!” รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน!
