สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยากจะมาเล่าประสบการณ์ตรงเลยครับ เรื่องการไปสอบ TOEIC ตอนที่อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ฮ่าๆๆ คือมันมีเรื่องให้คิดเยอะเหมือนกันนะ ตอนแรกๆ เนี่ย ผมก็ลังเลใจอยู่พักใหญ่เลยครับว่าจะไปดีไหม จะไหวรึเปล่า เพราะในหัวมันก็คิดไปเรื่อยเปื่อยว่า เอ๊ะ คนสอบ TOEIC ส่วนใหญ่น่าจะเป็นน้องๆ นักศึกษา หรือไม่ก็คนที่เพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ แล้วเราล่ะ อายุขนาดนี้แล้ว จะไปนั่งสอบกับเด็กๆ มันจะดูแปลกๆ ไหมนะ ความรู้ภาษาอังกฤษที่เคยมีมันจะยังเหลืออยู่รึเปล่าหลังจากไม่ได้ใช้มานาน
แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงตัดสินใจไปสอบล่ะ?
คือเรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ผมเริ่มมองหาลู่ทางใหม่ๆ ให้กับตัวเองครับ ทั้งเรื่องงาน ทั้งเรื่องการพัฒนาตัวเองด้วย แล้วก็มีบางที่ที่ผมสนใจเนี่ย เค้าดันต้องการคะแนน TOEIC ซะด้วยสิ ตอนแรกก็ว่าจะปล่อยผ่าน แต่คิดไปคิดมา เอาน่า ลองดูซักตั้ง อย่างน้อยก็ได้รู้ศักยภาพตัวเองปัจจุบัน แล้วถ้าคะแนนมันออกมาดี ก็ถือเป็นโบนัส เป็นใบเบิกทางให้เราได้อีก สรุปคือ อยากลองของ ว่างั้นเถอะครับ ฮ่าๆๆ แล้วก็แอบมีความท้าทายเล็กๆ ในใจด้วยว่า อายุเท่านี้แล้ว ยังจะทำได้ไหมนะ

ช่วงเตรียมตัวสอบ… โอ้โห ไม่ง่ายเลย!
พอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะสอบ ก็เริ่มกระบวนการเตรียมตัวครับ บอกตามตรงเลยว่าช่วงนี้แหละที่รู้สึกว่า อายุเป็นอุปสรรค นิดหน่อยจริงๆ เรื่องแรกเลยคือความจำครับ สมัยหนุ่มๆ นี่อ่านอะไรแป๊บเดียวจำได้หมด แต่ตอนนี้เหรอครับ ต้องอ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบมากกว่าเดิมเยอะเลย แล้วไหนจะเรื่องเวลาอีก ด้วยภาระหน้าที่การงานทางบ้าน มันก็ไม่ได้มีเวลามานั่งอ่านหนังสือเต็มวันเหมือนน้องๆ เค้าหรอกครับ
สิ่งที่ผมทำก็คือ พยายามจัดตารางเวลาให้ตัวเองครับ ตื่นเช้าขึ้นหน่อย ก่อนไปทำงานก็ขอซักชั่วโมงนึง ตอนเย็นกลับมาก็อีกซักชั่วโมง สองชั่วโมง แล้วแต่แรงจะเหลือ ฮ่าๆๆ เน้นทำโจทย์เก่าๆ เยอะๆ ครับ โดยเฉพาะพาร์ทฟังกับพาร์ทอ่าน เพราะสองพาร์ทนี้มันอาศัยความคุ้นเคยกับสำเนียงและความเร็วในการอ่านมากๆ ผมไปหาซื้อหนังสือเตรียมสอบมาสองสามเล่ม แล้วก็ตะลุยทำโจทย์มันทุกวันเลยครับ ผิดบ้างถูกบ้างก็ไม่เป็นไร ขอให้ได้ทำ ได้ทบทวนไปเรื่อยๆ แรกๆ นี่ท้อเหมือนกันนะ คะแนนแบบฝึกหัดออกมาไม่ค่อยดีเลย แต่ก็กัดฟันสู้ครับ คิดซะว่ามาฟื้นความจำเก่าๆ
มีอยู่วันนึง นั่งทำโจทย์อยู่ ลูกชายคนเล็กเดินมาถาม “พ่อทำอะไรอ่ะ ทำไมขยันจัง” ผมก็ยิ้มๆ แล้วบอกไปว่า “พ่อกำลังจะไปสอบแข่งกับเด็กๆ น่ะสิ” มันก็เป็นกำลังใจเล็กๆ ให้เราฮึดสู้เหมือนกันนะ
ถึงวันลงสนามจริง!
พอถึงวันสอบจริง ตื่นเต้นไหม? บอกเลยว่ามาก! ฮ่าๆๆ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับการสอบมานานมากแล้วครับ วันนั้นผมไปถึงสนามสอบก่อนเวลาพอสมควร ก็เห็นมีคนมารออยู่บ้างแล้ว สิ่งที่สังเกตเห็นคือ มีคนหลากหลายวัยมากๆ ครับ ไม่ได้มีแต่น้องๆ นักศึกษาหน้าใสอย่างที่ผมคิดไว้ตอนแรก มีทั้งคนที่ดูเป็นวัยทำงานรุ่นเดียวกับผม หรืออาจจะอาวุโสกว่าก็มีนะ เห็นแบบนั้นแล้วก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย ว่าเออ เราไม่ได้แปลกประหลาดอยู่คนเดียวนี่หว่า
ตอนเข้าไปในห้องสอบ บรรยากาศมันก็จะเงียบๆ ตึงเครียดหน่อยๆ เป็นธรรมดาของการสอบอะเนอะ ผมก็พยายามทำสมาธิ สูดหายใจเข้าลึกๆ นึกถึงสิ่งที่เตรียมตัวมาทั้งหมด แล้วก็ลงมือทำข้อสอบไปตามสเต็ปที่ซ้อมไว้เลยครับ พาร์ทฟังนี่ต้องตั้งใจสุดๆ เพราะมันเร็วมากจริงๆ ส่วนพาร์ทอ่านก็ต้องบริหารเวลาให้ดี ผมใช้วิธีที่เค้าแนะนำกันมาคือ ดูคำถามก่อนแล้วค่อยไปหาคำตอบในเนื้อเรื่อง ก็ช่วยได้เยอะเหมือนกันครับ
สอบเสร็จแล้ว… เป็นไงบ้าง?
ตอนเดินออกจากห้องสอบนี่โล่งอกสุดๆ ครับ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง อย่างน้อยเราก็ได้ทำเต็มที่แล้ว หลังจากนั้นก็รอผลสอบอย่างใจจดใจจ่อ พอผลออกมา… ก็ถือว่าน่าพอใจในระดับนึงเลยครับ อาจจะไม่ได้สูงปรี๊ดเหมือนพวกเทพๆ เค้า แต่สำหรับคนอายุเท่านี้ ที่ห่างหายจากการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันไปนาน แถมยังมีเวลาเตรียมตัวจำกัดจำเขี่ย ผมว่ามันก็โอเคมากๆ แล้วครับ มันทำให้ผมรู้สึกว่า เฮ้ย เราก็ยังไหวอยู่นะ!
ประสบการณ์ครั้งนี้มันสอนอะไรผมหลายอย่างเลยครับ เรื่องอายุเนี่ย มันอาจจะมีผลบ้างในเรื่องของความจำ หรือพละกำลังในการอ่านหนังสือ แต่ถ้าเรามีความตั้งใจจริง มีวินัยในการเตรียมตัว ผมว่ามันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ใหญ่เกินไปหรอกครับ สิ่งสำคัญคือใจเราเองมากกว่า ถ้าใจเราสู้ซะอย่าง อะไรก็เป็นไปได้
ดังนั้น สำหรับใครที่อายุเริ่มเยอะแล้ว หรือกำลังลังเลว่าจะไปสอบ TOEIC ดีไหม ผมอยากจะบอกว่า อย่าให้ตัวเลขของอายุมาจำกัดความสามารถของเราครับ ลองดูซักตั้ง ไม่เสียหายหรอกครับ อย่างน้อยก็ได้ทบทวนความรู้ ได้ท้าทายตัวเอง และใครจะไปรู้ คะแนน TOEIC ครั้งนี้อาจจะเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับชีวิตคุณก็ได้นะครับ สู้ๆ ครับ!