สอบ GED Ready ไม่ หมดสิทธิ์สอบ GED จริงไหม

สอบ GED Ready ไม่ผ่านหมดสิทธิ์สอบ GED จริงไหม ทำยังไงได้บ้าง

ก่อนทำการสอบ GED หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องของการสอบ GED Ready กันมาบ้าง อย่างไรก็ตามมีข้อสงสัยที่อาจทำให้เกิดความกังวลใจเกี่ยวกับการสอบเทียบวุฒินี้คือ หากสอบ GED Ready ไม่ผ่านจะหมดสิทธิ์สอบ GED จริงหรือไม่ แล้วแบบนี้ควรต้องทำอย่างไรได้บ้าง ลองนำเอาข้อมูลเหล่านี้ไปใช้พิจารณาเพื่อวางแผนสอบของตนเองให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้เลย

จริงไหมสอบ GED Ready ไม่ผ่านหมดสิทธิ์สอบ GED

ขออธิบายให้เข้าใจเบื้องต้นก่อนว่า การสอบ GED Ready คือ การทดสอบเบื้องต้นซึ่งทุก ๆ คนที่วางแผนต้องการสอบ GED จะต้องผ่านข้อสอบนี้ให้ได้ก่อน มิเช่นนั้นจะไม่สามารถไปสอบ GED ปกติได้เลย (นั่นเท่ากับสอบ GED Ready ไม่ผ่าน อดสอบ GED จริง) ซึ่งเนื้อหาของการสอบจะมีความใกล้เคียงกันมาก แบ่งออกเป็น 4 หมวด ประกอบไปด้วย Reasoning Through Language Arts (ภาษาอังกฤษ), Science (วิทยาศาสตร์), Social Studies (สังคมศาสตร์), Mathematical Reasoning (คณิตศาสตร์)

ทั้งนี้ความแตกต่างคือ การสอบ GED Ready จะมีจำนวนข้อของแต่ละรายวิชาน้อยกว่าการสอบ GED จริงเกือบครึ่ง หรือบางวิชาก็ต่างกันครึ่ง ๆ เลยทีเดียว มีเวลาในการสอบตามที่ผู้จัดสอบระบุเอาไว้ (ส่วนใหญ่ก็ไม่ถึงครึ่งของการสอบ GED ปกติ) แต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมคือ คะแนนที่ได้จะต้องสูงกว่า 155 คะแนน ซึ่งมากกว่า GED ที่ใช้คะแนนเพียง 145 คะแนน ก็จัดว่าผ่านแล้ว ค่าใช้จ่ายอยู่ที่วิชาละ 6 USD สามารถแยกสอบทีละวิชา ไม่ต้องสอบพร้อมกันหมดก็ได้

สอบ GED Ready ไม่ผ่าน ต้องทำยังไงเพื่อให้ตนเองมีคะแนนดีขึ้น

จากที่อธิบายเอาไว้ถือเป็นข้อสรุปที่ชัดเจนว่าหากคุณสอบ GED Ready ไม่ผ่านจะไม่สามารถสอบ GED ปกติได้ ทั้งนี้เหตุผลสำคัญมาจากผู้จัดสอบเองอยากวัดทักษะ ความรู้เบื้องต้นของผู้สอบทุกคนก่อนไปสอบจริง จะได้ไม่ต้องเสียเงิน เสียเวลาในการสอบเทียบวุฒิของตนเอง แต่ทั้งนี้หากใครอยากสอบ GED จริง ๆ แต่เริ่มจาก GED Ready ก็ยังไม่ผ่าน มีวิธีดี ๆ มาแนะนำกัน

1. สร้างทักษะทางภาษาอังกฤษของตนเองให้ดี

การสอบ GED Ready หรือ GED เป็นข้อสอบอังกฤษทั้งหมด ดังนั้นหากคุณไม่มีทักษะด้านภาษานี้เลยถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ตนเองสอบผ่านได้คะแนนตามเป้าหมาย ดังนั้นต้องเริ่มตั้งแต่สร้างทักษะทางภาษา เรียนรู้ทุกอย่างให้เป็นอังกฤษ จะช่วยเพิ่มความคุ้นชินและเข้าใจในเนื้อหามากขึ้นกว่าเดิม

2. ฝึกทำข้อสอบ GED ของจริงไปเลย

อย่างที่อธิบายไปกว่าการสอบ GED Ready คือ การย่อสัดส่วนของการสอบ GED แบบเบื้องต้นมาให้ทดลอง ดังนั้นหากอยากสอบได้คะแนนดีก็ฝึกทำข้อสอบ GED ของจริงไปเลย ตรงไหนติดขัด วิชาใดทำแล้วยังรู้สึกว่ายากจะได้ปรับการเรียนรู้ของตนเองเน้นส่วนนั้นยิ่งขึ้น

3. หาติวเตอร์ช่วยสอน แนะนำเทคนิคการสอบ

ท้ายที่สุดหากกังวลว่าจะสอบ GED Ready ไม่ผ่านแนะนำให้หาติวเตอร์ที่ช่วยสอน GED เพื่อทำคะแนนดีตามเกณฑ์ที่ตั้งเป้าเอาไว้ ทั้งนี้ส่วนใหญ่การสอนจะเน้นไปที่ GED โดยตรงเลย ดังนั้นหากคุณมีพื้นฐานดังกล่าวดีแล้วการสอบ GED Ready ก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แถมยังต่อยอดไปถึงการสอบ GED จริงอีกด้วย