สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยกับเรื่อง ระดับ toeic เนี่ยแหละครับ คือตอนแรกๆ ที่ผมได้ยินคำนี้ ก็งงๆ นะ ว่ามันคืออะไร สำคัญยังไง จนกระทั่งต้องใช้จริงๆ นั่นแหละครับ ถึงได้เริ่มศึกษาจริงจัง
จุดเริ่มต้นของการผจญภัยกับ TOEIC
เรื่องมันเริ่มมาจากตอนนั้นผมอยากจะเปลี่ยนงานไงครับ แล้วหลายๆ ที่ที่ผมเล็งไว้เนี่ย เขาก็ต้องการคะแนน TOEIC กันทั้งนั้นเลย ตอนแรกก็คิดในใจว่า “เออ…คงไม่ยากมั้ง ภาษาอังกฤษเราก็พอได้อยู่” แต่พอไปดูแนวข้อสอบเท่านั้นแหละ โอ้โห! ความมั่นใจที่เคยมีมันหายวับไปกับตาเลยครับ ศัพท์ก็ยาก แกรมม่าก็ลืมไปเกือบหมดแล้ว ส่วนพาร์ทฟังนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ฟังทันบ้างไม่ทันบ้าง มึนไปหมด
ลงมือเตรียมตัวจริงจัง
หลังจากช็อคไปพักนึง ก็ตั้งสติได้ครับ ว่ายังไงก็ต้องสอบให้ผ่าน แล้วก็ได้คะแนนดีๆ ด้วย เลยเริ่มวางแผนการเตรียมตัวของตัวเองเลยครับ
- หาข้อมูลก่อนเลย: ผมเริ่มจากการค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตนี่แหละครับ ดูว่าข้อสอบ TOEIC มันมีกี่พาร์ท แต่ละพาร์ททดสอบอะไรบ้าง ใช้เวลาเท่าไหร่ เกณฑ์คะแนนเป็นยังไง คือพยายามทำความเข้าใจภาพรวมของมันให้ได้มากที่สุด
- ซื้อหนังสือเตรียมสอบ: อันนี้ขาดไม่ได้เลย ผมเดินเข้าร้านหนังสือ ไปเลือกดูหนังสือเตรียมสอบ TOEIC หลายๆ เล่มเลยครับ อ่านคำนำ ดูเนื้อหาคร่าวๆ สุดท้ายก็เลือกมาสองสามเล่มที่คิดว่าน่าจะเหมาะกับตัวเอง มีทั้งเล่มที่เน้นสรุปแกรมม่า เล่มตะลุยโจทย์ แล้วก็เล่มรวมศัพท์
- เริ่มปูพื้นฐานใหม่: ผมยอมรับเลยว่าแกรมม่าคืนอาจารย์ไปเกือบหมดแล้ว เลยต้องเริ่มรื้อฟื้นใหม่หมดเลยครับ อ่านจากหนังสือที่ซื้อมา แล้วก็หาคลิปสอนแกรมม่าในยูทูปดูประกอบไปด้วย ค่อยๆ ทำความเข้าใจไปทีละเรื่อง
- ท่องศัพท์ ท่องศัพท์ แล้วก็ท่องศัพท์: อันนี้เป็นอะไรที่ทรมานแต่ก็จำเป็นมากๆ ผมลิสต์ศัพท์ที่เจอบ่อยๆ ในข้อสอบเก่าๆ หรือในหนังสือ แล้วก็พยายามท่องทุกวันเลยครับ ใช้แฟลชการ์ดบ้าง เขียนใส่สมุดบ้าง ทำทุกวิถีทางให้จำได้
- ฝึกทำข้อสอบเก่า: พอพื้นฐานเริ่มแน่นขึ้นมาหน่อย ผมก็เริ่มฝึกทำข้อสอบเก่าๆ เลยครับ ตอนแรกๆ ก็ทำไป เปิดดิกชันนารีไป ไม่ต้องจับเวลา เอาให้เข้าใจก่อนว่าทำไมถึงตอบข้อนี้ ผิดตรงไหน พอเริ่มคล่องขึ้น ก็เริ่มจับเวลาเหมือนสอบจริง อันนี้ช่วยเรื่องการบริหารเวลาได้เยอะมากๆ
- เน้นพาร์ทฟังเป็นพิเศษ: สำหรับผม พาร์ทฟังค่อนข้างยาก เลยต้องให้เวลากับมันเยอะหน่อย ผมพยายามฟังภาษาอังกฤษทุกวันเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเพลงสากล ดูหนัง soundtrack ดูซีรีส์ หรือฟังพอดแคสต์ภาษาอังกฤษ แรกๆ ก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกครับ แต่พอฟังไปเรื่อยๆ หูมันจะเริ่มชิน แล้วจะเริ่มจับใจความได้เอง
วันสอบจริงและผลลัพธ์
ก่อนวันสอบจริง ผมพยายามพักผ่อนให้เพียงพอครับ ทำใจให้สบาย ไม่กดดันตัวเอง พอถึงวันสอบ ก็ตื่นเต้นนิดหน่อยครับ แต่ก็พยายามมีสมาธิ ทำข้อสอบไปตามที่ได้ฝึกซ้อมมา พาร์ทไหนทำได้ก็รีบทำ พาร์ทไหนไม่แน่ใจก็ข้ามไปก่อน แล้วค่อยกลับมาดูถ้ามีเวลา
พอผลสอบออกมา ก็โล่งใจเลยครับ คะแนนอาจจะไม่ได้สูงลิ่วอะไรมากมาย แต่ก็เป็นคะแนนที่ผมพอใจมากๆ เพราะมันมาจากความพยายามของตัวเองล้วนๆ และที่สำคัญคือมันเพียงพอสำหรับยื่นสมัครงานที่ผมต้องการได้ครับ
สิ่งที่ได้เรียนรู้
การเตรียมตัวสอบ TOEIC ครั้งนี้ สอนอะไรผมหลายอย่างเลยครับ อย่างแรกเลยคือ ความสม่ำเสมอสำคัญที่สุด การอ่านหนังสือวันละนิดวันละหน่อย ดีกว่าไปโหมอ่านทีเดียวก่อนสอบเยอะเลยครับ อย่างที่สองคือ การวางแผนที่ดีช่วยได้มาก รู้ว่าตัวเองอ่อนตรงไหน ต้องเสริมตรงไหน ทำให้การเตรียมตัวมันมีทิศทาง และสุดท้ายคือ อย่าท้อถอยครับ แรกๆ อาจจะรู้สึกว่ามันยาก แต่ถ้าเราพยายามอย่างเต็มที่แล้ว ผลลัพธ์มันจะออกมาดีเองครับ
นี่ก็เป็นประสบการณ์การเตรียมตัวสอบ TOEIC ของผมนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวอยู่บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ สู้ๆ ครับทุกคน!