สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยเกี่ยวกับไอ้เจ้าการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษยอดฮิตสามตัวนี้แหละครับ TOEIC, TOEFL, IELTS เนี่ย ตอนแรกผมเองก็งงเป็นไก่ตาแตกเลยนะ ว่ามันต่างกันยังไงวะ แล้วเราต้องสอบอันไหนดี
จุดเริ่มต้นของการงง
เรื่องมันเริ่มจากตอนที่ผมคิดๆ อยากจะพัฒนาตัวเอง อยากมีใบอะไรสักอย่างมายืนยันความสามารถภาษาอังกฤษของเรา เผื่อจะใช้สมัครงานใหม่ หรือบางทีอาจจะอยากไปเรียนต่อนอกกับเขาบ้าง ไอ้ความคิดมันก็ฟุ้งไปเรื่อย ทีนี้พอเริ่มหาข้อมูลเท่านั้นแหละ โอ้โห…อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด TOEIC บ้างล่ะ TOEFL บ้างล่ะ IELTS อีก เยอะจนเลือกไม่ถูกเลยครับ

ลงสนามจริง: เริ่มจาก TOEIC
ผมก็เริ่มจากตัวที่ได้ยินบ่อยสุดก่อนเลยครับ TOEIC เนี่ย เพื่อนๆ ที่ทำงานหลายคนก็ไปสอบกัน ผมก็เลยลองไปหาข้อมูลดู อ้อ…มันเน้นการฟังกับการอ่านเป็นหลักแฮะ คำศัพท์ก็จะเกี่ยวกับการทำงาน การติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวันทั่วไป ไม่ได้วิชาการจ๋าอะไรมาก ผมก็เลยตัดสินใจลองไปสอบดู ก็นั่งเตรียมตัวไปพอสมควรครับ ตอนสอบก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรมากนะ แต่ต้องบริหารเวลาดีๆ หน่อย โดยรวมก็รู้สึกว่ามันวัดทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในบริบทการทำงานได้ดีระดับนึงเลย
- เน้นฟัง-อ่าน
- ศัพท์ทั่วไป ธุรกิจเบื้องต้น
- ใช้สมัครงานในไทยเป็นส่วนใหญ่
ก้าวต่อไป: เมื่อ TOEIC อาจไม่พอ
พอสอบ TOEIC เสร็จไปสักพัก ความคิดอยากไปเรียนต่อนอกมันก็เริ่มจริงจังขึ้นมา ทีนี้แหละครับ ปัญหาเกิดเลย เพราะมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ที่เล็งๆ ไว้ เขาไม่ได้ใช้ TOEIC นี่สิ เขาต้องการ TOEFL หรือไม่ก็ IELTS เอาล่ะสิ งานเข้า ต้องมานั่งหาข้อมูลใหม่หมดเลย
ทำความรู้จัก TOEFL กับ IELTS
ผมก็เริ่มจากการถามเพื่อนๆ ที่เคยไปเรียนนอก แล้วก็เปิดเน็ตอ่านรีวิวต่างๆ ควบคู่กันไป จนเริ่มจับทางได้ว่า:
TOEFL iBT เนี่ย มันจะออกแนวอเมริกันจ๋าๆ หน่อย สอบกับคอมพิวเตอร์ทั้งหมดเลยนะ ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน คือพูดก็พูดใส่ไมค์โครโฟนไปเลย เนื้อหามันจะวิชาการมากๆ เน้นการใช้ภาษาในห้องเรียนมหาวิทยาลัยเลยครับ พวกศัพท์แสงนี่ถ้าไม่อ่านมาดีๆ มีมึนแน่นอน ตอนนั้นผมลองทำข้อสอบตัวอย่างดู รู้สึกว่ายากกว่า TOEIC เยอะเลย ต้องเตรียมตัวหนักกว่ามาก
- สอบกับคอมพิวเตอร์ทั้งหมด (ฟัง พูด อ่าน เขียน)
- เนื้อหาเชิงวิชาการ เหมาะสำหรับเรียนต่อ (โดยเฉพาะฝั่งอเมริกา)
- สำเนียงอเมริกันเป็นหลัก
ส่วน IELTS นี่มันจะมีสองแบบ คือ Academic กับ General Training ถ้าจะไปเรียนต่อก็ต้องสอบแบบ Academic แต่ถ้าจะไปทำงานหรือย้ายถิ่นฐานบางประเทศก็ใช้ General Training ได้ ข้อแตกต่างสำคัญอีกอย่างคือ IELTS เนี่ย การสอบพูด (Speaking) เราจะได้คุยกับคนจริงๆ เลยนะ ไม่ได้พูดกับคอมฯ เหมือน TOEFL ซึ่งบางคนอาจจะชอบแบบนี้มากกว่า เพราะมันดูเป็นธรรมชาติกว่า แต่บางคนก็อาจจะตื่นเต้นกว่าเดิมก็ได้ เนื้อหาก็วิชาการเหมือนกันสำหรับ Academic แต่ผมรู้สึกว่ามันมีความหลากหลายของสำเนียงมากกว่าหน่อย มีทั้งอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ปนๆ กันไป
- มี 2 แบบ: Academic (เรียนต่อ) และ General Training (ทำงาน/ย้ายถิ่นฐาน)
- สอบพูดกับคนจริงๆ
- เนื้อหาเชิงวิชาการ (สำหรับ Academic)
- หลากหลายสำเนียง (อังกฤษ, ออสเตรเลีย ฯลฯ)
บทสรุปจากประสบการณ์ตรง
หลังจากที่ได้ลองศึกษา ลองทำข้อสอบตัวอย่าง แล้วก็คุยกับคนนู้นคนนี้มาพอสมควร ผมก็พอจะสรุปจากประสบการณ์ตัวเองได้ประมาณนี้ครับ:
ถ้าเป้าหมายคือใช้สมัครงานในไทยเป็นหลัก หรือบริษัทเอกชนทั่วไป ไม่ได้ต้องการไปเรียนต่อนอกแบบจริงจัง TOEIC ก็เป็นตัวเลือกที่ตรงจุดที่สุดแล้วครับ เตรียมตัวไม่ยากเท่าสองตัวหลัง ค่าสอบก็ถูกกว่าด้วย
แต่ถ้าคิดจะไปเรียนต่อ โดยเฉพาะฝั่งอเมริกา หรือมหาวิทยาลัยที่ระบุว่ารับ TOEFL ก็ต้องมุ่งไปที่ TOEFL iBT เลยครับ เตรียมตัวหนักหน่อย ศัพท์วิชาการต้องแน่นจริง
สำหรับใครที่อยากไปเรียนต่อฝั่งอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือยุโรปหลายๆ ประเทศ หรือแม้กระทั่งใช้ยื่นเรื่องย้ายถิ่นฐาน IELTS (Academic หรือ General Training แล้วแต่กรณี) ดูจะเป็นที่ยอมรับกว้างขวางกว่าครับ

สุดท้ายแล้วเนี่ย มันไม่มีอันไหนดีที่สุดหรอกครับ มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอาผลสอบไปทำอะไรมากกว่า ลองตั้งเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจน แล้วค่อยเลือกประเภทการสอบที่มันตอบโจทย์เราที่สุด จะได้ไม่เสียเวลา ไม่เสียเงินฟรีครับ หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังงงๆ อยู่บ้างนะครับ สู้ๆ ครับทุกคน!