โอ้ยยย พูดถึงเรื่องสอบ TOEIC นี่นะ มันเป็นอะไรที่แบบ…ต้องถอนหายใจยาวๆ เลยเพื่อนๆ ตอนแรกที่รู้ว่าต้องใช้คะแนนนะ หัวแทบจะระเบิด ภาษาอังกฤษนี่คือคืนอาจารย์ไปตั้งแต่จบ ม.ปลายแล้วมั้ง
สภาพตอนเริ่มต้น: คือศูนย์เลยจ้าาา
จริงจังนะ ตอนนั้นคือแบบศัพท์ง่ายๆ บางทียังนึกไม่ออกเลย แกรมมงแกรมม่านี่ไม่ต้องพูดถึง เละเทะ! ฟังเจ้าของภาษาพูดนี่เหมือนฟังเพลงที่ไม่รู้จักเนื้อเลยอ่ะ จับใจความอะไรไม่ได้สักอย่าง แต่ก็นะ…ในเมื่อมันจำเป็น ก็ต้องสู้กันสักตั้งวะ!
ลองผิดลองถูก: สารพัดวิธีที่เขาว่าดี
ช่วงแรกๆ นี่คือมั่วมาก บอกเลย ลองไปหมดทุกอย่างที่ใครว่าดี
- หนังสือ: ซื้อมาสุมไว้เต็มห้อง เปิดอ่านได้สองสามหน้าก็เริ่มเบื่อ ตัวหนังสือมันเยอะตาลายไปหมด
- คลิปสอนฟรีในเน็ต: โอ้โห เยอะแยะตาแป๊ะไก่มาก ดูไปเรื่อยๆ บางอันก็ดี บางอันก็งงกว่าเดิมอีก สรุปคือจับต้นชนปลายไม่ถูก
- แอปพลิเคชัน: โหลดมาเต็มเครื่อง ลองเล่นอันนู้นที อันนี้ที สุดท้ายก็ไม่ได้ต่อเนื่องสักอัน
- เพื่อนลากไปติว: อันนี้ก็เสียเงินไปอีกก้อน ไปนั่งเรียนรวมๆ กันเยอะๆ บางทีก็ตามไม่ทัน เขาก็ไปกันเร็วเหลือเกิน
คือมันเละเทะมากอ่ะช่วงนั้น รู้สึกเหมือนย่ำอยู่กับที่ ไม่ไปไหนมาไหนเลย คะแนนลองทำข้อสอบเก่าๆ ดูก็ยังเน่าเหมือนเดิม ท้อใจสุดๆ
จุดเปลี่ยน: เมื่อเริ่มจับทางตัวเองเจอ
หลังจากลองมั่วๆ มาสักพักจนท้อไปหลายรอบ สุดท้ายก็คิดว่า เห้ย! เราต้องมีวิธีของตัวเองว่ะ จะไปตามคนอื่นอย่างเดียวไม่ได้ผลแน่ๆ ก็เลยเริ่มปรับแผนใหม่
อันดับแรกเลยนะ คือเลิกสะเปะสะปะ ตั้งสติแล้วเลือกแหล่งข้อมูลที่เราคิดว่าโอเคกับเราที่สุด ไม่ใช่แห่ตามคนอื่นเขาไปหมด
สิ่งที่ฉันทำจริงๆ จังๆ คือ:
- ตะลุยข้อสอบเก่า: อันนี้เน้นมาก หาข้อสอบเก่าๆ มาทำให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ จับเวลาเหมือนสอบจริงเลย ผิดถูกช่างมัน ทำให้จบก่อน
- วิเคราะห์จุดพลาด: พอทำเสร็จ ไม่ใช่ตรวจแล้วทิ้งนะ เอามานั่งดูเลยว่าผิดตรงไหน ผิดเพราะอะไร ถ้าเป็นศัพท์ที่ไม่รู้ ก็จดออกมาหาความหมาย ถ้าเป็นแกรมม่า ก็ไปหาอ่านเรื่องนั้นเพิ่มเติม ทำซ้ำๆ จนเข้าใจ
- เรื่องศัพท์: เลิกท่องเป็นนกแก้วแบบคำต่อคำ แต่พยายามจำจากประโยคที่เราเจอในข้อสอบ หรือจากเรื่องสั้นๆ ที่อ่าน มันช่วยให้จำได้ดีกว่าเยอะ แล้วก็เห็นภาพว่าศัพท์นี้ใช้ยังไง
- การฟัง: อันนี้ทรมานสุด แต่ก็ได้ผลสุด คือพยายามฟังภาษาอังกฤษให้เยอะที่สุด เปิดมันกรอกหูไปเลย ไม่ว่าจะเป็นเพลงสากล พอดแคสต์ หรือซีรีส์ฝรั่ง แรกๆ ก็ฟังไม่ออกหรอก แต่พอฟังไปเรื่อยๆ หูมันจะเริ่มชิน แล้วจะเริ่มจับคำได้เอง ไม่ต้องกลัวฟังไม่รู้เรื่อง แค่เปิดให้มันผ่านหูไปก่อน
- แกรมม่า: ไม่ได้เน้นท่องจำกฎเป๊ะๆ ทุกข้อ แต่เน้นทำความเข้าใจโครงสร้างหลักๆ ที่ออกสอบบ่อยๆ แล้วก็เรียนรู้จากข้อผิดพลาดในข้อสอบเก่าเอา
ฉันไม่ได้ไปลงคอร์สแพงๆ เลยนะช่วงหลังๆ อาศัยความมีวินัยของตัวเองล้วนๆ ทำทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย
เหตุผลที่ต้องสู้ (แบบขำๆ)
ที่ต้องมานั่งปั่นคะแนน TOEIC เนี่ย ก็ไม่มีอะไรมากหรอก บริษัทที่ทำอยู่ดันเอาคะแนนมาเป็นเกณฑ์ในการปรับตำแหน่งใหม่เฉยเลย! ตอนแรกก็กะว่าจะชิลๆ แล้วนะ แต่พอมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องเท่านั้นแหละ ไฟลุกเลยจ้าาา ฮ่าๆๆ คือถ้าไม่ติดเรื่องนี้นะ ไม่คิดจะมานั่งทรมานตัวเองแบบนี้หรอก
วันประกาศผล และสิ่งที่ได้เรียนรู้
วันไปสอบนี่ตื่นเต้นมาก ทำเต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ละ พอผลออกมา…ก็แบบ…เอ่อ…ไม่ได้สูงเวอร์วังอะไรนะ แต่ก็พอดีเป๊ะกับเกณฑ์ที่บริษัทต้องการ แบบไม่ขาดไม่เกินเลยสักแต้ม โคตรจะเฉียดฉิว! ตอนนั้นคือโล่งอกมาก เหมือนยกภูเขาออกจากอก
ถามว่าคุ้มไหมกับที่เหนื่อยไป? ถ้ามองว่ามันทำให้เราได้ปรับตำแหน่ง ได้เงินเดือนเพิ่ม มันก็คุ้มแหละ แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้นคือ เราได้รู้ว่าถ้าเราตั้งใจทำอะไรจริงๆ จังๆ เราก็ทำได้ว่ะ ถึงจะเริ่มจากศูนย์ก็เถอะ
แต่เอาจริงๆ นะ หลังจากสอบเสร็จไม่นาน ไอ้ความรู้ภาษาอังกฤษที่อุตส่าห์ยัดเข้าไปในหัวตอนนั้นน่ะ…มันก็เริ่มจะเลือนๆ หายไปอีกละ 555 สงสัยต้องหาเรื่องใช้มันบ่อยๆ ไม่งั้นคืนครูหมดอีกรอบแน่ๆ!