เอาล่ะครับ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลย กับการไปตะลุยสอบ TOEIC ที่ มข. มาหมาดๆ เผื่อใครกำลังเล็งๆ ว่าจะไปสอบที่นั่น จะได้เห็นภาพว่ามันเป็นยังไงมั่ง
ทำไมต้องเป็น มข. แล้วมันวุ่นวายไหมกว่าจะได้สอบ?
เรื่องของเรื่องคือตอนนั้นมันจำเป็นต้องใช้คะแนนแบบด่วนจี๋เลยครับ งานใหม่ที่มองๆ ไว้เขาดันขอมาซะงั้น จะให้ถ่อไปสอบถึงกรุงเทพฯ ก็ดูจะเสียเวลาเดินทางใช่เรื่อง แถมเปลืองตังค์อีกต่างหาก มข. นี่แหละ ตอบโจทย์สุด ใกล้บ้าน เดินทางสะดวกหน่อย ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจว่าเอาวะ ลองดูซักตั้งที่นี่แหละ

ขั้นตอนการสมัครสอบที่ มข. นะครับ เท่าที่จำได้คร่าวๆ ตอนนั้นผมต้องโทรไปสอบถามรอบสอบแล้วก็จองคิวไว้ก่อนเลย พอได้คิวแล้วก็ต้องแจ้นไปจ่ายตังค์ที่…รู้สึกจะเป็นตึกสำนักทะเบียนหรืออะไรแถวๆ นั้นล่ะครับถ้าจำไม่ผิด เอกสารก็เตรียมไปตามระเบียบ บัตรประชาชน รูปถ่าย สำเนาต่างๆ ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมายนะ แต่คนเยอะมากกกก ใครจะไปก็เผื่อเวลาหน่อยละกัน ไปช้าอาจจะคิวเต็มอดสอบไม่รู้ด้วยนะ
ช่วงเตรียมตัวก่อนสอบ โคตรทรมาน แต่ก็ต้องสู้!
พอสมัครเสร็จสรรพ ก็มาถึงช่วงเวลาปั่นตัวเอง อ่านหนังสือเตรียมสอบ บอกเลยว่าช่วงนั้นชีวิตเหมือนอยู่ในสนามรบย่อมๆ ตอนแรกก็คิดว่าเออ ภาษาอังกฤษเราก็พอได้มั้ง ไม่น่าจะยากอะไร ที่ไหนได้! พอไปเปิดตำราดูข้อสอบเก่าๆ เท่านั้นแหละครับ โอ้โห…ศัพท์อะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด ฟังก็เร็วปรื๋อ อ่านก็ยาวเป็นหางว่าว ตาแทบเหล่
ช่วงแรกๆ นี่ท้อเลยนะ พยายามหาหนังสือมาอ่านหลายเล่ม แต่บางทีมันก็เยอะจนไม่รู้จะเริ่มตรงไหน อ่านไปก็ง่วงไป สมาธิแตกซ่าน สุดท้ายเลยเปลี่ยนแผน เน้นตะลุยทำข้อสอบเก่าๆ อย่างเดียวเลยครับ ทำมันเข้าไปวันละชุดสองชุด จับเวลาจริงจัง ผิดตรงไหนก็มานั่งดูว่าพลาดอะไรไป แรกๆ ก็คะแนนเน่าหนอนมากครับ แต่พอทำไปเรื่อยๆ มันก็เริ่มจับทางได้ เริ่มชินกับแนวข้อสอบมากขึ้น จากที่เคยฟังไม่ทัน ก็เริ่มจะทันบ้างนิดหน่อย ส่วนพาร์ทอ่านนี่ก็พยายามฝึกสกิมให้เร็วขึ้น หาคีย์เวิร์ดเอา ไม่ต้องอ่านทุกตัวอักษร ไม่งั้นไม่ทันกินแน่ๆ
- เน้นศัพท์: อันนี้สำคัญโคตรๆ ท่องไปเลยครับ เจอศัพท์ใหม่ๆ จากข้อสอบก็จดไว้ แล้วมาท่องซ้ำๆ
- ฝึกฟังเยอะๆ: หาพวกพอดแคสต์ภาษาอังกฤษ หรือข่าวมาฟังให้คุ้นหู สำเนียงมันหลากหลายจริงๆ
- จับเวลาทำข้อสอบ: สำคัญมาก ทำให้รู้ลิมิตตัวเอง และบริหารเวลาเป็น
วันจริง ณ สนามสอบ มข. เป็นไงบ้าง?
พอถึงวันสอบจริงนี่ตื่นเต้นสุดๆ เลยครับ ขับรถไป มข. ก็วนหาที่จอดนิดหน่อยตามสไตล์มหาวิทยาลัยใหญ่ๆ คนเยอะพอสมควร ผมได้สอบที่อาคารเรียนรวมซักตึกนี่แหละ จำชื่อเป๊ะๆ ไม่ได้ละ เข้าไปในห้องสอบนี่แอร์เย็นเจี๊ยบเลย คนก็เต็มห้อง ทุกคนดูตั้งใจมาก หน้าตาเคร่งเครียดกันสุดฤทธิ์ เราก็พยายามทำใจร่มๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ บอกตัวเองว่าทำให้เต็มที่ก็พอ
เจ้าหน้าที่ที่ มข. คุมสอบค่อนข้างเข้มงวดนะครับ เดินตรวจตลอดเวลา ห้ามขยับตัวเยอะ ห้ามมองซ้ายมองขวาเลย อุปกรณ์เครื่องเขียนนี่ก็ต้องใช้ของที่เขามีให้เท่านั้น ดินสอ 2B ยางลบ ปากกาของเรานี่เอาเข้าไม่ได้เลย ต้องฝากไว้หน้าห้องหมด ใครจะไปสอบก็เตรียมตัวเตรียมใจเรื่องนี้ไว้ด้วย
พอเริ่มสอบพาร์ทฟังเท่านั้นแหละครับ หูผึ่งเลย สำเนียงนี่มาครบทุกชาติจริงๆ บางอันก็เร็วเกิ๊น ฟังทันบ้างไม่ทันบ้าง อาศัยเดาผสมมั่วไปก็เยอะ ฮ่าๆๆ ส่วนพาร์ทอ่านนี่ก็สาหัสไม่แพ้กัน บทความยาวเป็นหน้าๆ อ่านจนปวดตา ปวดคอไปหมด เวลา_ก็บีบหัวใจเหลือเกิน ทำไปแบบเบลอๆ ก้มหน้าก้มตาทำจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ
สอบเสร็จแล้วไงต่อ?
พอเสียงสัญญาณหมดเวลาดังขึ้นนี่เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยครับ โล่งสุดๆ แต่ความกังวลมันยังไม่จบแค่นั้นสิครับ ต้องมารอลุ้นผลคะแนนต่ออีกประมาณอาทิตย์นึง ช่วงนั้นนี่กินไม่ได้นอนไม่หลับเลยทีเดียว ใจมันตุ้มๆ ต่อมๆ ตลอดเวลา
สุดท้ายผลคะแนนก็ออกมา… ก็ถือว่าโอเคครับ ไม่ได้ดีเลิศเลอเพอร์เฟค แต่ก็เพียงพอที่จะเอาไปใช้งานตามที่ตั้งใจไว้ได้ ก็รู้สึกดีใจครับที่ความพยายามของเรามันไม่สูญเปล่า อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้รู้ว่าการสอบ TOEIC มันเป็นยังไง
สำหรับใครที่กำลังจะไปสอบ TOEIC ที่ มข. นะครับ ก็อยากจะบอกว่า เตรียมตัวไปให้พร้อมที่สุดเท่าที่จะทำได้ เรื่องคำศัพท์นี่สำคัญมากๆ ท่องไปเยอะๆ เลยครับ แล้วก็ฝึกทำข้อสอบเก่าๆ บ่อยๆ จับเวลาด้วย จะได้ชินกับความกดดันในห้องสอบ ส่วนเรื่องสถานที่สอบที่ มข. โดยรวมก็ถือว่าโอเคครับ เดินทางสะดวก มีที่จอดรถพอสมควร แต่คนสอบเยอะ อาจจะต้องรีบไปถึงสนามสอบก่อนเวลาซักหน่อยจะได้ไม่ฉุกละหุก ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังจะไปสอบนะครับ สู้ๆ ครับ!