เฮ้อออ พูดถึงเรื่องโทอิคนี่นะ กว่าจะได้คะแนนเต็มมาเนี่ย ไม่ใช่เรื่องหมูๆ เลยจะบอกให้ ตอนแรกๆ ก็ไม่ได้คิดหรอกว่าจะต้องเอาให้เต็มอะไรขนาดนั้น
แต่พอดีช่วงนั้นมันมีเหตุจำเป็นนิดหน่อย อยากจะลองเปลี่ยนสายงานดูบ้าง แล้วไอ้บริษัทที่เล็งๆ ไว้เนี่ยสิ ดันอยากได้คนมีผลโทอิคสูงปรี๊ดดด ตอนนั้นก็คิดในใจ เอาวะ ลองดูซักตั้ง!

ไปสอบครั้งแรกจำได้แม่นเลย เดินออกจากห้องสอบแบบมึนๆ ผลออกมานี่แทบจะเอาหัวโขกกำแพง คะแนนแบบ… อื้อหืออออ น้อยจนไม่อยากจะพูดถึงเลย มันเฟลมาก รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ
หลังจากวันนั้นก็เลยตั้งปณิธานกับตัวเองใหม่ว่า ไม่ได้การละ ต้องเอาจริง! ไม่ยอมแพ้โว้ย! จากนั้นก็เริ่มเลยครับ ลุยแหลก!
ช่วงแรกๆ ก็เหมือนคนตาบอดคลำทางอะนะ ลองผิดลองถูกไปเรื่อย หนังสือเล่มไหนดัง เล่มไหนใครว่าดี ซื้อมาหมด กองเต็มห้องไปเลย ทั้งแดง ทั้งฟ้า ทั้งเขียว สารพัดสี ทำแบบฝึกหัดจนตาแฉะ
ส่วนการฟังนี่ แรกๆ ก็ฟังไม่ทันหรอกครับ เขาพูดอะไรกันวะเนี่ย เร็วเกิ๊น! ก็เลยใช้วิธีแบบบ้านๆ เลย เปิดมันกรอกหูทุกวัน ไม่ว่าจะข่าวภาษาอังกฤษ พอดแคสต์ เพลงสากล ดูหนังก็เปิดซับอังกฤษแล้วพยายามฟังตาม แรกๆ ก็จับได้คำสองคำ หลังๆ มันเริ่มชินหู เริ่มฟังรู้เรื่องมากขึ้น เออ เข้าท่าแฮะ!
แต่ไอ้ที่หนักสุดสำหรับผมเลยนะ คือพาร์ทอ่านนี่แหละครับพี่น้อง! โอ๊ยยยย อ่านไม่ทัน! คำศัพท์ก็ยาก แกรมม่าก็งงไปหมด ช่วงนั้นท้อไปหลายรอบเลยนะ แต่ก็กัดฟันสู้
ผมลองเปลี่ยนวิธี จากที่เคยนั่งท่องศัพท์เป็นนกแก้วนกขุนทอง ก็เปลี่ยนมาเป็นพยายามทำความเข้าใจรากศัพท์ พยายามเดาความหมายจากบริบท แล้วก็พยายามอ่านให้เยอะขึ้น อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า บทความ ข่าว เรื่องสั้นง่ายๆ อะไรก็ได้ที่เป็นภาษาอังกฤษ
จุดเปลี่ยนสำคัญ มันมาจากการที่ผมเริ่มจับเวลาทำข้อสอบจริงจังครับ แบบทำทั้งชุดแล้วจับเวลาเหมือนสอบจริงเลย แรกๆ ก็เกินเวลาไปบานตะไท แต่พอทำไปเรื่อยๆ มันเริ่มคล่องขึ้น เริ่มบริหารเวลาได้ดีขึ้น รู้ว่าควรอ่านตรงไหนก่อน ตรงไหนเป็นคีย์เวิร์ด
แล้วก็มีอีกอย่างที่ผมว่าช่วยได้เยอะ คือการหัดขีดๆ เขียนๆ โน้ตย่อๆ ตอนทำข้อสอบพาร์ทอ่าน มันช่วยให้เราโฟกัส แล้วก็กลับมาหาคำตอบได้เร็วขึ้น ไม่ต้องอ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ
ทำแบบนี้วนไปครับทุกวัน ตื่นเช้ามาทำข้อสอบ เย็นกลับมาทวนสิ่งที่ผิดพลาด เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้พักหรอกครับ อัดเต็มที่เหมือนกัน มันเหนื่อยนะ แต่ใจมันสู้ไง!

ก่อนไปสอบรอบที่ตั้งใจเอาจริงนี่ เตรียมตัวแบบสุดๆ นอนเต็มอิ่ม ทำสมาธิไม่ให้ตื่นเต้น พอเข้าห้องสอบไป คราวนี้รู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะเลยครับ ทำข้อสอบไปแบบไหลลื่น ไม่ติดขัดเหมือนครั้งแรก
พอผลสอบออกมาเท่านั้นแหละครับ… คะแนนเต็ม! โอ้โหหหห แทบจะกระโดดโลดเต้นอยู่ตรงนั้นเลย มันเป็นความรู้สึกที่แบบ… สุดยอดจริงๆ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ
ถามว่าคุ้มไหมที่ทุ่มเทขนาดนั้น? สำหรับผมนะ โคตรคุ้ม! มันไม่ใช่แค่เรื่องคะแนนที่เอาไปใช้สมัครงานได้ แต่มันคือความภูมิใจในตัวเอง คือการที่เราเอาชนะความขี้เกียจ ความท้อแท้ของตัวเองได้ มันทำให้รู้ว่าถ้าเราตั้งใจจริง ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้หรอกครับ ทุกคนก็ทำได้เหมือนกันนะผมว่า แค่ต้องหาทางของตัวเองให้เจอแล้วก็ลุยเลย!